TCAP (HOLD : Fair Price : Bt 52.00) : เด่นที่เงินปันผลสูง

Published
Share this article:

คงคำแนะนำ "ถือ" เพื่อรับเงินปันผล มูลค่าพื้นฐานที่ 52.00 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8.5%, TG 2%) อิง 0.7x PBV’25E (-0.5SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี) เทียบเท่า 8.0x PE’25 โดยมองว่าการดำเนินงานธุรกิจภายใต้ความไม่แน่นนอนทางเศรษฐกิจเน้นความระมัดระวัง และควบคุมคุณภาพสินเชื่อเป็นหลัก โดยคาดการณ์กำไรสุทธิเติบโต 3.2%/3.4% ในปี 2025-26 หนุนจากสำรองหนี้ฯ และต้นทุนการเงินลดลง ทั้งนี้ เราคาดว่า TCAP จะไม่มีการจ่ายเงินปันผลพิเศษ แม้ว่าจะได้รับเงินสดราว 2.7 พัน ลบ. จากการขาย TNS ให้ TTB ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในราว 3Q25 อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพคล่องส่วนเกิน และการขยายสินเชื่อใหม่ที่จำกัด TCAP ยังคงเป็นบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสูง และถือเป็นจุดเด่นในการลงทุน โดยคาดว่า TCAP ผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 6.7%/6.9% ในปี 2025-26

การประชุมนักวิเคราะห์

• บมจ. ราชธานี ลิสซิ่ง (THANI) เน้นการดูแลคุณภาพสินเชื่อเป็นหลัก ผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ กระทบการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ THANI ได้รับผลกระทบตามมา อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกคือ ลูกค้าหันมาซื้อรถบรรทุกมือสองทำให้การขาดทุนรถยึดลดลง และการแข่งขันลดลงเพราะคู่แข่งออกจากตลาด

• การขายธุรกิจหลักทรัพย์ ธนชาต (TNS) ให้กับ TTB (TCAP ถือ TTB ราว 24.9%) คาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จใน 3Q25 และได้รับเงินสดราว 2.700 พันลบ. (TCAP ถือ TNS ราว 90%) แต่จะไม่มีการบันทึกกำไรพิเศษ เพราะขายเท่ากับมูลค่าทางบัญชี ดังนั้น TCAP ยังคงรับรู้รายได้ของ TNS ตามปกติใน 2Q25 แต่จะเริ่มการรับรู้ผ่านการลงทุนใน TTB ใน 2H25 เป็นต้นไป

• ทริสเรทติ้งประกาศเครดิตพินิจแนวโน้ม 'Negative' สำหรับอันดับเครดิตองค์กร และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ TCAP ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 'A' เนื่องจากมองว่า TNS เป็นหนึ่งในบริษัทย่อยที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ TCAP และคาดว่าจะทบทวนเครดิตพินิจของบริษัทได้เมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้น และมีข้อมูลเพียงพอที่ทริสเรทติ้งจะสามารถสรุปผลอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ TCAP ได้ โดยการดำเนินการทบทวนอันดับเครดิตในอนาคต จะพิจารณาการใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้น และกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวของบริษัท

การเติบโตชะลอตัวตามเศรษฐกิจ

• เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความชัดเจนจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ การขยายสินเชื่อใหม่ผ่าน THANI และ Thanchart Plus มีข้อจำกัด บนความความไม่แน่นอนในอนาคต แม้จะได้รับเงินสดจากการขาย TNS เรามองว่า TCAP ยังคงระมัดระวังในการลงทุนธุรกิจใหม่ และเราไม่คิดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลพิเศษในปี 2025

• เราปรับลดการขยายสินเชื่อในปี 2025 เป็น -11% จาก -4% และคาดสินเชื่อจะเติบโตราว 1.4% ในปี 2026 อย่างไรก็ดี ปรับลดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ลง 3% ในปี 2025-26 ดังนั้น ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2025-26 เพิ่มราว 1-3% โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตที่ 3.2%/3.4% ในปี 2025-26

• TCAP สามารถจ่ายเงินปันผลสูงจากสภาพคล่องส่วนเกิน และการขยายสินเชื่อใหม่ที่จำกัด เราคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 6.7%/6.9% ในปี 2025-26