OSP (BUY : Fair Price : Bt24.00) : คาดงบ 4Q23 รับรู้ one-time item จากการปิดโรงแก้ว

Published
29 January 2024
Share this article:

เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 24.00 บาท เราเชื่อว่าราคาหุ้น OSP ปรับลดลง 22% ในปี2023 และ 4% ตั้งแต่ต้นปี 2024 สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่ลดลง และปัจจัยลบระยะสั้นไปแล้ว โดยเราคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจะแตะจุดต่ำสุดใน 4Q23 และคาดว่าจะทรงตัวในช่วง 46.5%-47.0% ในปี2024-25 โดยเริ่มเห็นการฟื้นตัวในช่วงธ.ค. 2023 หลังบริษัทเริ่มกลับมาทำโปรโมชั่น โดยเราคาดรายงานกำไรสุทธิ 471 ล้านบาท แต่หากตัวรายการพิเศษจากการปิดโรงแก้ว SGI จะอยู่ที่ 601 ล้านบาท (+78%YoY, +7%QoQ) หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว พร้อมกับยอดขายในต่างประเทศที่เติบโตดีแม้มีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน

คาดกำไรฟื้นตัว YoY แม้มีรายการพิเศษจากการปิดโรงแก้ว

• คาดการรับรู้กำไรพิเศษครั้งเดียวจากการยุติการดำเนินงานโรงงานผลิตขวดแก้วของ SGI ในสมุทรปราการจำนวน 130 ล้านบาท ซึ่งจะกระทบทั้งบรรทัดต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายขายบริหาร

• คาดตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจะเติบโต 3% YoY ใน 4Q23 หนุนจากแคมเปญการจัดโปรโมชั่นและการขึ้นราคาขายปลีกจากกลุ่มผู้เล่นหลักอย่าง 'กระทิงแดง' ในช่วงเดือน มี.ค. 2023 เราประเมินว่าส่วนแบ่งของ OSP ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของไทยจะลดลงเป็น 46.3% ใน 4Q23 จาก 46.5% ใน 3Q23 และ 47.3% ใน 4Q22 การจัดโปรโมชั่นของคู่แข่ง

• มูลค่าตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพปรับดีขึ้น QoQ แต่ยังคาดว่าจะลดลง 9%YoY ใน 4Q23 เนื่องจากความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพลดลงหลังพ้นวิกฤติ COVID-19 แต่อย่างไรก็ตามเราคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 44.0% ใน 4Q23 จาก 43.7% ใน 3Q23 และ 40.1% ใน 4Q22 ดังนั้นเราจึงคาดว่ายอดขายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพของ OSP จะลดลง YoY แต่ดีขึ้น QoQ ใน 4Q23

• คาดรายได้ 4Q23 ที่ 6.5 พันล้านบาท (+1%YoY, +4%QoQ) เพราะอานิสงส์จากยอดขายในประเทศ (65% ของยอดขายรวม) เพิ่มเป็น 4.2 พันล้านบาท (+5%YoY) สำหรับยอดขายผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลเพิ่มเป็น 628 ล้านบาท (+6%YoY) และ ยอดขายเครื่องดื่มระหว่างประเทศปรับเพิ่มเป็น 1.1 พันล้านบาท (+11%YoY) หักลบกับยอดขายรับจ้างผลิต (OEM) ที่ลดลง YoY

• คาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน 4Q23 จะปรับดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เป็น 35.6% จาก 29.3% ในไตรมาส 3/22 และ 34.0% ในไตรมาส 2/23 หนุนจากอานิสงส์จากราคาก๊าซธรรมชาติและค่าไฟฟ้าที่ลดลง ซึ่งสองปัจจัยดังกล่าวสามารถหักลบกับอัตรากำไรที่ลดลงจากการปริมาณขายเครื่องดื่มระหว่างประเทศลดลง แต่หากรวมรายการพิเศษจากการปิดโรงงานแก้วจะมีอัตรากำไรขั้นต้นลดลง YoY เล็กน้อย

• คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายจะลดลง QoQ และทรงตัว YoY ที่ 25.6% ใน 4Q23 จาก 25.9% ใน 3Q23 แต่หากรวมรายการพิเศษจากการปิดโรงงานแก้วจะเพิ่มขึ้นเป็น 27.3%

คงคำแนะนำ "ซื้อ" ผลตอบแทนเงินปันผลน่าสนใจ

มูลค่าพื้นฐาน 24.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 1.5% เทียบเท่า 27xPE’24E หรือ -1SD ของค่าเฉลี่ยการซื้อขายในรอบ 3 ปี