NER (BUY : Fair Price : Bt 6.25) : โรงงานใหม่มาแน่ปีหน้า

Published
Share this article:

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยมองว่าแนวโน้มผลประกอบการงวด 4Q25 จะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3Q25 ได้หลังมีปริมาณขายเพิ่มขึ้น จากผลดีของการเซ็นสัญญารับจ้าง กยท. ผลิตยางแท่ง รวมถึงผลตอบแทนเงินปันผลที่คาดว่าในช่วง 2H25 จะจ่ายอีกประมาณ 0.35 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 8% ด้านผลประกอบการงวด 3Q25 มีกำไรสุทธิ 327 ล้านบาท (-10%YoY) แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติเพิ่มขึ้น 53%YoY สำหรับความคืบหน้าการสร้างโรงงานใหม่ล่าสุดผู้บริหารตัดสินใจเดินหน้าก่อสร้างแล้วหลังจากมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าอินเดียและ กยท. เข้ามา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 26

**3Q25 กำไรสุทธิ 327 ล้านบาท (-10%YoY, -41%QoQ) **

• NER มีกำไรสุทธิงวด 3Q25 ที่ 327 ล้านบาท (-10%YoY,-40%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษที่มีบางส่วนเป็นความเสียหายจากเหตุไฟไหม้ ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์และผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนรวมกันประมาณ 12 ล้านบาท จะมีกำไรปกติที่ 339 ล้านบาท (+53%YoY,-31%QoQ) เทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้นจากกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ส่วนลดลงจาก 2Q25 ส่วนหนึ่งได้รับแรงกดดันจากราคาขายที่ลดลง

• รายได้อยู่ที่ 6,727 ล้านบาท (+10%YoY,-11%QoQ) มีปริมาณขาย 112,439 ตัน (+15%YoY,+1%QoQ) โดยปริมาณขายได้รับผลกระทบจากสินค้าที่เสียหายจากเหตุไฟไหม้ ส่วนราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 59.8 บาท/กก. (-5%YoY,-12%QoQ) เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาตลาดโลกที่ลดลงในช่วงปลายเดือน มี.ค.

• กำไรขั้นต้นที่ 8.9% ดีขึ้นจาก 8.3% ใน 3Q24 ตามปริมาณการขายแต่ลดลงจาก 10.5% ใน 2Q25 เพราะต้นทุนลดลงช้ากว่าราคาขาย

• ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 143 ล้านบาท (-20%YoY, -7%QoQ) เทียบกับปีก่อนลดลงแรงสอดคล้องกับการส่งออกที่ลดลง 6%YoY ส่วนเทียบกับ 2Q25 ลดลงในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหาร

• ในไตรมาส 3 NER มีการบันทึกผลขาดทุนจากเหตุไฟไหม้เข้ามา 32.7 ล้านบาท โดยเป็นยอดสุทธิระหว่างเงินเครมประกันที่รับรู้ก้อนแรกเข้ามา 119 ล้านบาท กันยอดความเสียหายรวมที่มีประมาณ 152 ล้านบาท

• ดอกเบี้ยจ่าย 137 ล้านบาท +19%YoY เพราะมีออกหุ้นกู้เพิ่ม

ยอดขายทั้งปียังคงเป้าที่ 470,000 ตัน โรงงานใหม่มาปีหน้า

NER ยังคงเป้าการขายทั้งปีที่ระดับ 470,000 ตัน โดยในช่วง 9M25 ทำได้ 351,412 ตัน ซึ่งในช่วง 4Q25 NER คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ในระดับ 120,000 ตัน โดยส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าใหม่จากอินเดีย และลูกค้าจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่มีการมาว่าจ้าง NER ผลิตยางแท่งให้ เดือนละประมาณ 10,000-15,000 ตัน
ส่วนการสร้างโรงงานยางแท่งแห่งที่ 3 ทาง NER มีแผนเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ และคาดว่าจะเสร็จในช่วง 3Q26 สาเหตุที่ตัดสินใจเริ่มก่อสร้างเนื่องจากต้องการรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าอินเดียที่ปัจจุบันมีเข้ามาแล้ว 3 ราย รวมกับการว่าจ้างผลิตจากทาง กยท. ด้วย

**คงประมาณการเดิม และยังแนะนำ “ซื้อ” **

กำไรสุทธิในช่วง 9M25 คิดเป็นสัดส่วน 80% ของกำไรสุทธิในปี 25 ที่เราประเมินไว้ และจากแนวโน้มในช่วง 4Q25 ที่คาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นเราจึงยังคงเป้ากำไรสุทธิทั้งปีไว้เท่าเดิมก่อนที่ 1,863 ล้านบาท (+13%YoY) โดยยังไม่ได้รวมเงินประกันเหตุไฟไหม้ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 180 ล้านบาท คำแนะนำการลงทุนจากแนวโน้มการขายในช่วง 4Q25 ที่คาดว่าจะดีขึ้นทั้งปริมาณและราคาขาย และเงินปันผลที่คาดว่าในช่วง 2H25 จะจ่ายอีกประมาณ 0.35 บาท คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 8% ทำให้เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมและประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 6.25 บาท (6.2XPER’25E)