KTC (BUY : Fair Price : Bt 32.00) : พื้นฐานแข็งแกร่ง และ Valuation ไม่แพง
**ปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" ปรับลดมูลค่าพื้นฐานลงเหลือ 32 บาท สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจสูงขึ้น และการเติบโตระยะยาวลดลง เรามองว่าราคาหุ้นปรับลดลง 47% YTD สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การขยายสินเชื่อต่ำกว่าเป้าหมาย และปัจจัยเสี่ยงเฉพาะตัวด้านสภาพคล่องของนักลงทุนบางกลุ่ม ขณะที่ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลาย และราคาหุ้นมีความผันผวนลดลง แม้เราคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรได้เพียง 2-3% ในปี 2025-26 และ ROE มีแนวโน้มที่ลดลง เรามีมุมมองการลงทุนที่ดีขึ้นจาก (1) Valuation น่าสนใจมากขึ้น ซื้อขายที่ PBV’25E ที่ 1.55x และ PE’25E ที่ 9 เท่า บนคาดการณ์ ROE ที่ 18.1% ในปี 2025 (2) คาดผลตอบแทนเงินปันผลราว 5% ในปี 2025 และ (3) ความสามารถการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดี และมี Coverage ratio สูงกว่า 370% **
**คาดกำไรสุทธิใน 2Q25 เติบโต YoY และ QoQ **
• คาดการณ์กำไรสุทธิที่ 1.9 พันล้านบาท (+3% YoY, +1% QoQ) โดยกำไรเติบโต YoY เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัว และสำรองหนี้ฯ ลดลง ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายภาษีลดลง
• สินเชื่อรวมมีแนวโน้มกลับมาขยายตัว 0.7% QoQ (1Q25: -3.7%) จากการชำระคืนสินเชื่อลดลง และความต้องการสินเชื่อที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อใหม่ ทำให้สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวต่อเนื่องใน 3Q ก่อนที่จะกลับมาขยายตัวแข็งแกร่งใน 4Q จากปัจจัยฤดูกาล
• หนี้เสียควบคุมได้ตามเป้าหมาย เราคาดว่า NPL ratio ทรงตัวที่ 2% ขณะที่สำรองหนี้ต่อหนี้เสีย (Coverage ratio) ลดลงที่ 374.6% เป็นระดับแข็งแกร่งรองรับความเสี่ยงจากคุณภาพสินเชื่อที่เปาะบาง
การเติบโตมีแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
• การเติบโตทางเศรษฐกิจมีความท้าทาย และการให้ความสำคัญต่อคุณภาพสินเชื่อเป็นหลัก ทำให้การขยายสินเชื่อมีข้อจำกัด เราปรับลดคาดการณ์สินเชื่อเติบโต 2% ในปี 2025-26 (เดิม 2.6-2.7%) ต่ำกว่าเป้าหมายของ KTC ที่ 4%-5% ในปี 2025 ดังนั้น เราปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2025-26 ลงเล็กน้อย 0.4%/0.2% โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตได้ราว 2%/3% ในปี 2025-26
• D/E ที่ต่ำเพียง 1.6 เท่า ทำให้มีความสามารถในการกู้เงินเพิ่มได้หากสภาวะทางเศรษฐกิจเปิดโอกาสในการเติบโตในอนาคต และด้วยราคาหุ้นที่ปรับลดลง คาดว่า KTC จะให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงขึ้นที่ 5%/5.2% ในปี 2025-26
ปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 32.00 บาท
ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” จาก (1) อัตราผลตอบแทนการลงทุน (2) อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงขึ้น และ (3) Valuation น่าสนใจมากขึ้น แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 32.00 บาท จาก 45.00 บาท สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจสูงขึ้น และการเติบโตระยะยาวลดลง คำนวณด้วยวิธี Gordon growth model (ROE 17%, Long term growth 2%) อิง 1.9x PBV’25E และ 10.9x PE’25E