KBANK (HOLD : Fair Price : Bt 186.00) : กำไรสุทธิใน 3Q25 ดีกว่าคาด
**คงคำแนะนำ "ถือ" คาดผลตอบแทนเงินปันผลที่ 5.5%/5.6% ในปี 2025-26 โดยปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 186 บาท (เดิม 178 บาท) จากการปรับแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้น คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 7.8%, TG 2%) อิงจาก 0.7x PBV’26E ผลการดำเนินงานใน 3Q25 กำไรสุทธิออกมาดีกว่าคาดที่ 13 พันล้านบาท (+9% YoY, +4% QoQ) และ NPL ratio ทรงตัวที่ 3.2% เรามีมุมมองต่อการเติบโตของกำไรในปี 2025 ที่ดีขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 4.5% ทำให้กำไรใน 4Q25 แนวโน้มทรงตัว YoY แต่ปรับลดลง QoQ อย่างไรก็ดี ผลกระทบด้านเศรษฐกิจเป็นแรงกดดันต่อสินเชื่อชะลอตัว และ NIM ลดลงต่อเนื่อง คาดกำไรจะปรับลดลง 2% ในปี 2026 ทำให้ ROE ลดลงที่ 7.9% ในปี 2026 จาก 8.6% ในปี 2025 ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้นปรับขึ้นสะท้อนผลการดำเนินงานที่ดีใน 3Q25 แต่อาจยังไม่ได้สะท้อนความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวใน 2H25 และในปี 2026 **
การประชุมนักวิเคราะห์
• KBANK ปรับการเติบโตเศรษฐกิจไทยเพิ่มเป็น +1.8% จาก +1.5% จากการปรับการส่งออกเพิ่มเป็น +5.7% (เดิม +3.4) โดยคาด กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง เหลือ 1.25% สิ้นปี 2025
• ผลกระทบจากนโยบายทางภาษีของสหรัฐ อาจกระทบกลุ่ม SME ที่เปาะบาง ดังนั้น เน้นดูแลเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยธุรกิจที่คาดได้รับผลกระทบ เช่น ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และยานยนต์ ขณะที่แม้สินเชื่อ Corporate มีความแข็งแกร่ง แต่ลูกค้ายังระวังการลงทุนจากความเสี่ยงเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ทำให้แม้สินเชื่อเติบโตได้ใน 4Q25 แต่สินเชื่อในปี 2025 มีแนวโน้มลดลง
• ภายใต้ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจ Credit costs ในปี 2025 อยู่ที่ราว 165-170 bps (สูงกว่าเป้าหมายที่ 140-160 bps) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งงบดุล
• การบริหารเงินกองทุนที่เหมาะสม KBANK พิจารณาโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Buybcak) โดยมี Tier 1 capital ที่ 19.6% สูงกว่าเป้าหมายระยะกลางที่ >15%
• เน้นสร้าง Productivity และบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ธนาคารดำเนินโครงการ Early retirement โดยคาดจำนวนพนักงานปรับลดลง 10-15% และนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งนี้ ธนาคารตั้ง IT Budget spending ราว 3-5% ของรายได้
ปรับมุมมองการเติบโตดีขึ้น แต่คาดกำไรปี 2026 จะปรับลดลง
• เราปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น 3-4% ในปี 2025-26 สะท้อนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยดีขึ้น และควบคุมต้นทุนการดำเนินงานดีกว่าคาด โดยคาดว่ากำไรจะปรับเพิ่มขึ้น 4.5% ในปี 2025 จากสำรองหนี้ฯ ลดลง และ Cost to income ลดลงที่ 43.2% จากค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง
• ในปี 2026 คาดกำไรสุทธิจะปรับลดลง 2% กดดันจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจากสินเชื่อชะลอตัว และ NIM ปรับลดลง ส่งผลให้ ROE ลดลงที่ 7.9% ในปี 2026 จากราว 8.6% ในปี 2025
• เราคาดผลตอบแทนเงินปันผลที่ 5.5-5.6% ในปี 2025-26 อย่างไรก็ดี มีโอกาสที่ KBANK อาจจ่ายเงินปันผลพิเศษ เพราะเงินกองทุนสูง และสินเชื่อแนวโน้มเติบโตต่ำ