KBANK (BUY : Fair Price : Bt 170.00) : Valuation ไม่แพง และงบดุลแกร่ง
**คงแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานที่ 170 บาท (เดิม 180 บาท) คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8.2%, TG 2%) อิงจาก 0.7x PBV’25E หรือ -0.75SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี แม้ผลการดำเนินงานใน 1Q25 แข็งแกร่งกว่าคาด แต่เรามองว่าเศรษฐกิจไทยมีความท้าทายมากขึ้นจากปัจจัยภายนอก และอัตราดอกเบี้ยแนวโน้มปรับลดลงเพิ่มอีก 2 ครั้ง เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ เราปรับลดคาดการณ์กำไรในปี 2025-26 ลง 5%/7% สะท้อนการเติบโตสินเชื่อ และ NIM อ่อนแอลง โดยคาดกำไรสุทธิจะเติบโตชะลอตัวที่ 1%/3% ในปี 2025-26 และเรามองว่า ROE จะลดลงที่ 8.3%/8.2% ในปี 2025-26 ด้านผลการดำเนินงานใน 1Q25 กำไรสุทธิออกมาที่ 13.8 พันล้านบาท (+28.1% YoY, +1.1% QoQ) โดย NPL ratio ทรงตัวที่ 3.2% และ Coverage ratio เพิ่มเป็น 160% **
การประชุมนักวิเคราะห์
• KBANK ปรับลดเศรษฐกิจไทยปี 2025 เติบโตเหลือ 1.4% (เดิม 2.4%) โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 2 ครั้งเหลือ 1.50% สิ้นปี 2025 และคาดว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือน เม.ย.
• เป้าหมายการเงินปี 2025 มีความท้าทายมากขึ้นจากความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจ และอาจปรับเป้าหมายการเงินลดลงหากสถานการณ์เปลี่ยนไป (1) ขยายสินเชื่ออย่างมีคุณภาพในกลุ่มธุรกิจที่มีการฟื้นตัว และสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (2) NIM อยู่ในกรอบล่างของ 3.3%-3.5% และ (3) Credit cost อยู่ในกรอบบนของ 140-160 bps
• เน้นการบริหารเงินกองทุนที่มีประสิทธิภาพผ่านการจ่ายเงินผันผลสูง ขณะที่การซื้อหุ้นคืนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขที่เหมาะสมกว่าเกณฑ์ปัจจุบัน
• โครงการ คุณสู้ เราช่วย มีผลกระทบจำกัด มีสินเชื่อเข้าเกณฑ์ 5% ของสินเชื่อรวม และมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการเพียง 1-2% ของสินเชื่อรวม
• การบริหารเงินกองทุนที่มีประสิทธิภาพผ่านการจ่ายเงินผันผลสูง ขณะที่โครงการการซื้อหุ้นคืนอยู่ระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขที่เหมาะสมกว่าเกณฑ์ปัจจุบัน และยอมรับว่าเป้าหมาย ROE ที่ 2 หลักในปี 2026 มีความท้าทายมากขึ้น
ปรับลดแนวโน้มการเติบโตลดลงจากสินเชื่อ และ NIM อ่อนตัวลง
• แม้ผลการดำเนินงานใน 1Q25 ดีกว่าคาด แต่การเติบโตมีความท้าทายจากเศรษฐกิจชะลอตัว และอัตราดอกเบี้ยแนวโน้มลดลง บนสมมติฐานปรับดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง เราปรับลดกำไรสุทธิลง 5%/7% ในปี 2025-26 จาก (1) การเติบโตสินเชื่อ -2% (เดิม +0.5%) ปี 2025 และ +2% (เดิม +3%) ในปี 2026 (2) ปรับลด NIM ลง 20/30 bps เหลือ 3.36%/3.24% ในปี 2025-26 และ (3) ปรับเพิ่ม Credit cost เป็น 160 bps (เดิม 150 bps) ในปี 2025 และคงที่ 140 bps ในปี 2026
• คาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโต 1%/3% ในปี 2025-26 โดยมองว่า ROE ลดลงที่ 8.3%/8.2% ในปี 2025-26
• ประเมินว่าทุก 10 bps ที่ NIM ลดลง จะส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2025 ลดลงจากการประมาณการของเราราว 6%
• สมมติฐานอัตราจ่ายเงินปันผล 47% ในปี 2025-26 ใกล้เคียงกับการจ่ายปกติในปี 2024 (ไม่รวม Special dividend) โดยคาดจะให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 6.5%/6.7% ในปี 2025-26