KBANK (BUY : Fair Price : Bt 160.00) : สินเชื่อชะลอตัว และ NIM ลดลงกดดันกำไร
**เราปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" และลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 160 บาท เรามองว่าอัตราผลตอบแทนการลงทุนจำกัด หลังจากมองว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยลดลงส่งผลต่อ NIM ลดลงมากกว่าคาด 5-10 bps ในปี 2025-26 กอปรกับสินเชื่อที่ชะลอตัวทำให้คาดว่าการเติบโตของกำไรจะชะลอตัวลงเหลือ 1.5%/5.5% ในปี 2025-26 จากคาดว่าจะเติบโต 10.5% ในปี 2024 นอกจากนี้ ด้วยการเติบโตกำไรที่ชะลอตัว เรามองว่า ROE จะลดลงจาก 8.6% ในปี 2024 เหลือ 8.3% ในปี 2025-26 และมองว่าเป็นเรื่องท้าทายที่ KBANK จะบรรลุเป้าหมายROE ที่ 2 หลักในปี 2026 ด้านกำไรสุทธิใน 3Q24 ออกมาตามคาดที่ 12 พันล้านบาท (+6.1% YoY, -5.4% QoQ) โดย NPL ratio ทรงตัวที่ 3.2% และ Coverage ratio ลดลงเล็กน้อยที่ 150.7% **
การประชุมนักวิเคราะห์
• KBANK ยังคงเป้าหมายทางการเงินส่วนใหญ่ในปี 2024 แต่มองว่าการเติบโตสินเชื่อจะไม่ได้ตามเป้าหมายที่เติบโต 3-5% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจฟื้นตัวเปาะบาง การเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อใหม่ และอยู่ในกระบวนการจัดการคุณภาพของงบดุล (Balance sheet cleanup)ที่ KBANK ยืนยันว่าจะแล้วเสร็จตามแผนในปี 2024
• ธนาคารย้ำกว่า credit cost ในปี 2025 จะลดลงเหลือ 140-160 bps จากราว 175-195 bps ในปี 2024 เช่นเดิม โดยมีระดับสำรองหนี้ส่วนเกิน (Management overlay) ราว 15% ของสำรองหนี้ฯ รวมที่ 130 พันล้านบาท และคงเป้าหมาย ROE เพิ่มเป็น 2 หลัก ในปี 2026 โดยมีแผนการบริหารเงินกองทุนที่มีประสิทธิภาพด้วยการปรับลดระดับเงินกองทุนขั้นที่ 1 ในระยะยาวเหลือ 13-15% จาก 18.6% ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการพิจารณาจ่ายเงินปันผลสูงขึ้น ทำให้แม้การเติบโตจะไม่โดดเด่น แต่อัตราผลตอบแทนเงินปันผลจะน่าสนใจมากขึ้น
• KBANK ชี้แจงว่าใน 3Q24 ที่มีการโอนย้ายสินเชื่อธุรกิจที่ไม่มีหลักประกันบางส่วนที่หยุดดำเนินการไปเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) เป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดการงบดุล และจะไม่มีผลการตั้งสำรองหนี้ฯ ในอนาคต
**ปรับลด NIM กระทบการเติบโตของกำไรชะลอตัวมากกว่าคาด **
• KBANK ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.12-0.25% มีผลวันที่ 1 พ.ย. และต่ออายุโครงการความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปาะบางถึงสิ้นปี 2024 แต่คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้เราปรับลดคาดการณ์ NIM ลดลง 5-10 bps เหลือ 3.5% ในปี 2025-26 จากราว 3.7% ในปี 2024 เป็นการสะท้อนว่า NIM ของ KBANK จะเป็นทิศทางลดลงจนถึงกลางปี 2025
• เราคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2024 จะเพิ่มขึ้นราว 10.5% แต่ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2025-26 ลดลง 3% จากการปรับลด NIM ในปี 2025-26 ลง ทำให้เราคาดว่ากำไรสุทธิจะขยายตัวต่ำกว่าเดิมเหลือ 1.5%/5.5% ในปี 2025-26 ขณะที่ ROE มีแนวโน้มปรับลดลงเหลือ 8.3% ในปี 2025-26 จาก 8.6% ในปี 2024
ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" และลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 160 บาท
เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 160บาท (เดิม 178 บาท) สะท้อนมุมมองเชิงลบต่อการอ่อนตัวของ NIM ลดลง ทำให้ความสามารถการทำกำไรอ่อนแอกว่าคาด คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8.3%, TG 2%) อิงจาก 0.64x PBV’25E หรือ -1.0SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี