KBANK (BUY : Fair Price : Bt 152.00) : ฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ขาดปัจจัยหนุนด้านเศรษฐกิจ

Published
25 June 2024
Share this article:

เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 152 บาท KBANK ใช้จังหวะที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าให้ความสำคัญกับการจัดการงบดุลให้แข็งแกร่งขึ้น ทำให้วัฐจักร credit cost ปรับเป็นขาลงตามเป้าหมาย จากระดับสูงที่ 211 bps ในปี 2022 ลดลงที่ 175-195 bps ในปี 2024 และ 140-160 bps ในปี 2025 เรามองว่าภาระสำรองหนี้ฯ ที่ลดลงเป็นปัจจัยหลักหนุนให้กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง แม้จะในอัตราชะลอตัวที่ 9.1%/8.9% ในปี 2024-25 นอกจากนี้ ROE จะเป็นขาขึ้นต่อเนื่องที่ 8.5%/8.8% ในปี 2024-25 แต่เรามองว่ายังเป็นโจย์ที่ท้าทายหาก KBANK จะทำได้ตามเป้าหมายทำให้ ROE เป็น 2 หลักของธนาคารในปี 2026 สำหรับใน 2Q24 เราคาดกำไรสุทธิที่ 12.2 พันล้านบาท (+11.2% YoY, -9.3% QoQ) ขณะที่งบดุลทรงตัว โดยคาดจะมี NPL ratio ที่ 3.2% และ Coverage ratio ที่ 149.6%

คาดกำไรสุทธิใน 2Q24 เติบโต YoY แต่ลดลง QoQ

• เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q24 ที่ 12.2 พันล้าน (+11.2% YoY, -9.3% QoQ) โดยกำไรที่ขยายตัว YoY เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นล้อกับสินเชื่อ และสำรองหนี้ฯ ปรับลดลงหลังจากที่กระบวนการบริหารงบดุลจะแล้วเสร็จในปี 2024 อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรจะลดลง QoQ เนื่องจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงหลังจากมองว่า NIM จะปรับลดลงต่อเนื่อง (2) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง และ (3) ค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น

• ภายใต้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและกลยุทธ์การจัดการงบดุล เราคาดว่าสินเชื่อจะขยายตัวเล็กน้อย 0.5% QoQ ใน 2Q24 หลังจากสินเชื่อในเดือน เม.ย.-พ.ค. ทรงตัวเทียบกับ มี.ค. 2024 อย่างไรก็ดี สินเชื่อจะยังคงลดลง 0.8% YTD ใน 1H24 เรามองว่าสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้นใน 2H24 ล้อกับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยคงประมาณการสินเชื่อปี 2024 เติบโต 4% YoY เทียบกับเป้าหมายธนาคารที่เติบโต 3-5%

• การควบคุมคุณภาพสินเชื่อเป็นกลยุทธ์หลักของธนาคารเพื่อสนับสนุนให้ Credit cost แนวโน้มปรับลดลงตามเป้าหมายเหลือ 175-185 bps ในปี 2024 และลดลงเป็น 140-160 bps ในปี 2025 เราคาดว่า NPL ratio ทรงตัว QoQ ที่ 3.2% เทียบกับเป้าหมาย <3.25% ในปี 2024 และ Coverage ratio ทรงตัวที่ 149.6%

**คาดการเติบโตของกำไรจะชะลอตัวในปี 2024-25 **

KBANK ยืนยันตั้งสำรองหนี้ฯ เพียงพอรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต กอปรกับแผนการทำ Balance sheet cleanup จะแล้วเสร็จตามแผนในปี 2024 ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ในปี 2024-25 ปรับลดลงจะลดผลกระทบจาก NIM ที่ลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเป็นขาลงใน 2H24 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตต่อนื่องที่ 9.1%/8.9% ในปี 2024-25 และ ROE เป็นทิศทางขาขึ้นที่ 8.5%/8.8% ในปี 2024-25

คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 152 บาท

แนะนำ “ซื้อ” จาก (1) การฟื้นตัวต่อเนื่องของกำไรในปี 2024-25 (2) ROE ปรับสูงขึ้น (3) สำรองหนี้ฯ ลดลงหลังจากกระบวนการบริหารคุณภาพสินเชื่อส่วนใหญ่แล้วเสร็จในปี 2024 และ (4) มูลค่าหุ้นน่าดึงดูด ประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 152 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8.5%, TG 2%) อิงจาก 0.64x PBV’24E หรือ -1.0SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี