PI : KBANK (BUY : FAIR PRICE : Bt160.00) " เดินหน้าระบายงบดุลต่อเนื่อง "

Published
Share this article:

เริ่มต้นบทวิเคราะห์ใหม่ด้วยคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 160 บาท ทาง KBANK จะยังเดินหน้ากลยุทธ์การระบายงบดุลต่อเนื่องในปี 2023 และจำเป็นต้องตั้งสำรองหนี้ฯ มากกว่าปกติ เราตั้งสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญอย่างรัดกุมที่ 210bp สำหรับปี 2023 (แนวทางผู้บริหารที่ 175-200bp) เพราะคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แต่เราก็คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาโตได้ 14% YoY ในปี 2023 ด้วยอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่เริ่มขยายตัวขึ้นเป็น 7.9% (7.3% ในปี 2022) โดยเรามองว่า KBANK มีมูลค่าหุ้นน่าดึงดูดที่ 0.6x PBV’23E หรือ -1.25SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี ซึ่งสะท้อนกลยุทธ์การระบายงบดุลไปแล้วส่วนหนึ่ง

ไตรมาส 1/23 มีการเติบโตเชิง QoQ สูงสุด

• คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตสูงสุดในเชิง QoQ ที่ 189% เป็น 9.3 พันล้านบาท จากการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลงแรงและค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่ลดลง ส่วนในเชิง YoY ถึงแม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) จะปรับเพิ่มขึ้น แต่คาดว่ากำไรจะลดลง 17% YoY จากการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่สูงขึ้น และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง
• ในการที่จะเดินหน้าระบายงบดุลต่อเนื่อง ก็คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะลดลง 0.5% QoQ ขณะที่คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) จะทรงตัวที่ 3.2% (แนวทางผู้บริหารต่ำกว่า 3.25% ในปี 2023) และอัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ยังยืนระดับสูงที่ 150%

การเติบโตของกำไรสุทธิกลับมาฟื้นตัวในปี 2023

• ราคาหุ้นลดลงราว 12% YTD และให้ผลตอบแทนต่ำกว่าหุ้นธนาคารตัวอื่น หลังจากมีผลประกอบการน่าผิดหวังในปี 2022 ทั้งนี้ KBANK ยังเดินหน้าระบายงบดุลต่อเนื่องในปี 2023 และให้แนวทางค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลงเป็น 175-200bp ในปี 2023 (211bp ในปี 2022)
• เราคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะเพิ่มเป็น 210bp ในปี 2023 และลดลงเหลือ 190bp ในปี 2024 โดยคาดว่าการระบายงบดุลจะแล้วเสร็จในช่วงปี 2023 แต่ถึงแม้ว่าเราจะคาดการณ์ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญอย่างรัดกุม แต่ก็คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาโต 14% ในปี 2023 (ค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 11.5%)

คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 160 บาท

เริ่มต้นบทวิเคราะห์ใหม่สำหรับ KBANK ด้วยคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 160 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8.3% อัตราการเติบโต 2%) อิง 0.72x PBV’23E หรือ -1.0SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี คำแนะนำซื้อสะท้อน 1) สภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจะหนุนอุปสงค์สินเชื่อ 2) การเติบโตของกำไรที่มั่นคงมากขึ้นในปี 2023-24 3) ROE ขาขึ้น 4) ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่อาจลดลงหลังระบายงบดุลเสร็จ และ 5) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง