Daily Strategy : ยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ ที่มีนัยยะ แต่ราคาน้ำมันปรับขึ้นหนุนกลุ่มพลังงาน
Market Update :
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.5% ถูกกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.3% ขานรับต่อคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC+) จะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิต
Market Outlook :
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบัน CB ที่ระดับ 102 ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 96 โดยความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นเพราะผู้บริโภคมีความมั่นใจต่อตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามผู้บริโภคคาดว่าสภาพธุรกิจ การจ้างงาน และรายได้ ในอนาคตจะย่ำแย่ พร้อมประเมินว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในมุมมอง 12 เดือนข้างหน้าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 5.4% จากเดิมประเมินไว้ที่ 5.3% โดยความเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้าเร่งตัวขึ้น นอกจากนี้ยังได้สำรวจแผนการใช้จ่าย ซึ่งพบว่าแผนการซื้อบ้านยังค่อนข้างต่ำแต่แผนการซื้อรถยนต์เร่งตัวขึ้นเล็กน้อย ใดๆ ก็ตามหลังจากทราบตัวเลขดังกล่าวพบว่า US Bond Yield เร่งตัวขึ้น โดยอายุ 2 ปีปรับขึ้นทดสอบ 4.96% จากจุดต่ำสุดที่ 4.7% พร้อมกับความเห็นจาก CME FED Watch ที่เริ่มปรับเพิ่มน้ำหนักคงดอกเบี้ยของ FED ในเดือนกันยายนมากขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ 54% จากช่วงก่อนหน้าที่ราว 48% ปัจจัยติดตามคืนนี้ไม่มีอะไรสำคัญมีเพียง Richmond Manufacturing Index ของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ -6 หากรายงานแล้วต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) ในคืนวันศุกร์ ด้านปัจจัยในประเทศยังคงรอติดตาม การเมืองไทยที่มีความไม่ชัดเจน จึงจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีการเคลื่อนไหวที่จำกัดหรือ Underperform กว่าตลาดหุ้นประเทศอื่น อย่างน้อยก็จนกว่าจะเห็นว่าศาลจะดำเนินการอย่างไรกับนายกรัฐมนตรี โดยปัจจัยระยะสั้นรอติดตามภาวะเศรษฐกิจรายเดือนจากสภาพัฒน์และธนาคารแห่งประเทศไทย ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทยนอกจากจะรายงานเศรษฐกิจแล้วยังมีการรายงานดุลบัญชีเดินสะพัด Bloomberg Consensus ประเมินไว้เกินดุล 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1355 – 1370 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำทยอยสะสมเช่นเดิม เชื่อว่าท้ายที่สุดปัจจัยการเมืองจะมีทางออกที่ดีและประเทศจะเดินหน้าต่อ ขณะที่ Valuation SET ปัจจุบันถือว่าไม่แพงมาก แนะนำกลุ่ม ค้าปลีก (CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB TTB) ศูนย์การค้า (CPN) กลุ่มการเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ระยะสั้นแนะกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP)
**หุ้นแนะนำซื้อวันนี้ : **
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 187.00 บาท)
เราชอบ BBL เนื่องจาก (1) งบดุลแข็งแกร่งรับมือกับความไม่แน่นอน (2) ความสามารถการทำกำไรดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2024-25 ROE เป็นขาขึ้นและใกล้เคียงกับในปี 2019 และ (3) มูลค่าหุ้นไม่แพงซื้อขายที่ 0.5x PBV'24E หรือ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี และต่ำกว่า 0.7 เท่า สิ้นปี 2019
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 195.00 บาท)
มูลค่าพื้นฐานที่ 195.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 10% และ TG 0% คิดเป็น PE’24 อยู่ที่ 8 เท่า คิดเป็นระดับ -1SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี พร้อมทั้งอัตราเงินปันผลปี 24 ที่ 5.5% โดยเราตั้งสมมติฐาน ราคาน้ำมันดูไบปี 2024 และ 2025 ที่ 85$/bbl และ 80$/bbl ตามลำดับ อีกทั้งราคานํ้ามันดูไบระยะยาวที่ 70$/bbl ตั้งแต่ปี 2026