AEONTS (BUY : Fair Price : Bt 129.00) : แนวโน้มกำไรกลับมาเติบโตในปี 2025
**เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับมูลค่าพื้นฐานเป็น 129 บาท (จาก 126 บาท) จากการปรับใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2026 ประเมินด้วยวิธี Gordon growth model (ROE 11%, Long term growth 2%) อิงกับ 1.1x PBV’26E และ 10.2x PE’26E เราคาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาขยายตัว 5.4% ในปี 2025 หลังจากที่กำไรลดลงในปี 2023-24 จากการควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่ดีขึ้น ด้านผลการดำเนินงานใน 2Q25 กำไรสุทธิอยู่ที่ 792 ล้านบาท (-3.7% YoY, +2.6% QoQ) และ NPL ratio เพิ่มเป็น 5.2% แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H25 คาดว่าผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลง HoH จากสินเชื่อที่ยังชะลอตัว และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานปรับสูงขึ้นจากปัจจัยฤดูกาลในการทำโปรโมชั่นทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดใช้จ่ายสินเชื่อบัตรเครดิตและบุคคล **
กำไรสุทธิใน 2Q25 ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ
• กำไรสุทธิออกมาที่ 792 ล้านบาท (-3.7% YoY, +2.6% QoQ) กำไรปรับลดลง YoY กดดันจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงหลังจากสินเชื่อยังคงลดลงต่อเนื่อง ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากรายได้จากการขายลูกหนี้ที่ตัดจำหน่ายแล้ว และรายได้หนี้สูญรับคืนเติบโต รวมทั้งค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง
• กำไรใน 1H25 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (+16.1% YoY) เนื่องจากสำรองหนี้ฯ และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานปรับลดลง
• NIM ลดลง QoQ ที่ 17.6% (-2 bps QoQ, -42 bps YoY) จากอัตราผลตอบแทนสินเชื่อลดลง และต้นทุนการเงินปรับเพิ่มขึ้น
• สินเชื่อลดลงต่อเนื่อง 0.7% QoQ (-3.4% YoY) จากสินเชื่อบัตรเครดิต และบุคคลลดลง ส่งผลให้สินเชื่อใน 1H25 หดตัว 0.8% YTD
• คุณภาพสินเชื่อ หนี้เสียปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย กอปรกับฐานสินเชื่อลดลง NPL ratio ปรับขึ้นเป็น 5.2% และ Coverage ratio เพิ่มเป็น 166.8% จากการตั้งสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น โดยได้ตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษ (Management overlay) ราว 200-250 ล้านบาท เพื่อรองรับการเสี่ยงด้านเศรษฐกิจสูงขึ้น ขณะที่ Stage 2 ratio ปรับขึ้นเป็น 2.8%
คาดกำไรสุทธิกลับมาเติบโตในปี 2025
• AEONTS เผชิญผลการดำเนินงานที่ผันผวนในปี 2019-2024 เพราะกำไรสุทธิปรับลดลง 7.7% CAGR เทียบกับที่เติบโตแข็งแกร่ง 12% CAGR (2014-2018) ผลกระทบจากวิกฤตโควิด 19 กดดันฐานรายได้ และคุณภาพสินเชื่ออ่อนแอลง
• แนวโน้มผลการดำเนินงานเริ่มฟื้นตัว โดยคาดกำไรสุทธิจะกลับมาเติบโต 5.4%/4.7% ในปี 2025-26 หลังจากกำไรปรับลดลงในปี 2023-24 เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน และรายได้หนี้สูญรับคืนเพิ่มขึ้น ทำให้ Cost to income ratio ปรับลดลงจาก 44.2% ในปี 2024 เหลือ 42.8%/42.6% ในปี 2025-26
• ROE มีเสถียรภาพมากขึ้น คาดทรงตัวที่ 11.2% ในปี 2025-2026 (2024: 11.2%)
• ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 2.55 บาท (XD วันที่ 21 ต.ค. และจ่ายเงินวันที่ 6 พ.ย.)