Pi STOCK UPDATE : TU (BUY : FAIR PRICE Bt20.80)
" 2Q23 คาดกำไรต่ำ 1,000 ลบ. "
เราคาดว่าผลประกอบการงวด 2Q23 จะยังไม่ดีนักถ้าเทียบกับ 2Q22 จากผลกระทบของยอดขายที่ลดลงในทุกธุรกิจเพราะการชะลอตัวของคำสั่งซื้อจากลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง แม้จะสามารถปรับราคาสินค้าเพื่อชดเชยต้นทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ก็ตาม ซึ่งเราประเมินกำไรสุทธิเหลือเพียง 911 ลบ. (-44%YoY,-11%QoQ) ซึ่งทำให้กำไรสุทธิในช่วง 1H23 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 30% ของกำไรทั้งปีที่เราประเมินไว้เราจึงเตรียมจะปรับกำไรทั้งปีลงหลังการประกาศงบการเงิน อย่างไรก็ตามแนวโน้มช่วง 3Q23 คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้จาก 2Q23 หลังคำสั่งซื้อจากกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มกลับมา เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม
คาดกำไร 2Q23 เหลือ 911 ล้านบาท (-44%YoY,-11%QoQ)
• เราคาดกำไรสุทธิในช่วง 2Q23 ของ TU ที่ไม่รวมรายการพิเศษอย่างกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ 911 ล้านบาท (-44%YoY,-11%QoQ) อ่อนตัวลงจาก 2Q22 เพราะลูกค้ายังชะลอคำสั่งซื้ออยู่โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง ส่วนการลดลงจาก 1Q23 เพราะไม่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาช่วย แต่หากดูเฉพาะกำไรปกติคาดว่าจะยังโตได้ (+13%QoQ) หลังรายได้จากธุรกิจอาหารแปรรูปฟื้นตัวรวมถึงการปรับราคาที่ทำได้มากขึ้น
• รายได้อยู่ที่ 34,652 ล้านบาท (-12%YoY,+5%QoQ) เทียบกับปีก่อนยังคงลดลงทุกธุรกิจโดยเฉพาะในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารทะเลแช่แข็ง ส่วนธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปทรงตัวมีการปรับราคาเพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้
• กำไรขั้นต้นคาดไว้ที่ 16.3% ลดลงจาก 17.4% ใน 2Q22 ตามต้นทุนปลาทูน่าที่เพิ่มขึ้น (+24%YoY) และผลกระทบจากยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมที่น้อยลง แต่ดีขึ้นจาก 15.1% ใน 1Q23 เพราะธุรกิจอาหารแช่แข็งมีต้นทุนที่ลดลง (ราคากุ้งลดลง 20%QoQ) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 4,336 ล้านบาท (-10%YoY,+5%QoQ)
• ส่วนแบ่งจากเงินลงทุนคาดว่าจะรับรู้ขาดทุนเข้ามา 20 ล้านบาท ลดลงจาก 283 ลบ. ใน 2Q22 เพราะ Red Lobster มีผลขาดทุนที่ลดลงหลังมีการปรับปรุงภายในบริษัทอย่างมากโดยเฉพาะในด้านต้นทุน แต่หากเทียบกับ 1Q23 จะพลิกจากที่รับรู้กำไร 231 ลบ. หลัง Red Lobster กลับมาขาดทุนอีกครั้งซึ่งเป็นผลตามฤดูกาลอยู่แล้ว
• รวมกำไรสุทธิช่วง 1H23 อยู่ที่ 1,933 ลบ. (-43%YoY) และคิดเป็นสัดส่วนเพียง 30% ของกำไรทั้งปีที่เราประเมินไว้ที่ 6,493 ลบ.
คาดราคาปลาไม่สูงไปกว่านี้แล้ว
• สถานการณ์ด้านราคาปลาทูน่าที่ในเดือน มิ.ย. ยังยืนในระดับ 2,000 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน TU มองว่าคาดว่าจะเป็นระดับที่สูงสุดของปีแล้วแม้ว่าในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. จะเป็นช่วงห้ามใช้แหจับปลาก็ตาม (FAD BAN) แต่ด้วยราคาที่อยู่ในระดับสูงทำให้คาดว่าการจับปลาจะยังมีอยู่โดยใช้อุปกรณ์ประเภทอื่นแทน ซึ่งจะทำให้ราคาปลาไม่สูงไปกว่านี้มากนักและคาดว่าจะทยอยลดลงในช่วงปลาย 3Q23 นี้
