KTB (BUY : Fair Price : Bt23.00) : โตอย่างมั่นคงเพราะคุณภาพสินเชื่อดี
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 23.00 บาท เราชอบ KTB ตรงที่งบดุลแข็งแกร่ง กำไรสุทธิโตมั่นคง อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ขยายตัว และมูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูด เราได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของกำไรสุทธิขึ้น เพราะอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ขยายตัวดีขึ้น จึงคาดว่าจะมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง 18.3% ในปี 2023 ขณะที่เราคาดว่ากำไรสุทธิจะโตแข็งแกร่ง 17% YoY ในไตรมาส 4/23 (-8% QoQ จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่สูงตามฤดูกาล) เราประเมินว่ากำไรสุทธิจะชะลอตัวเป็น 12.9% ในปี 2024 ขณะที่เชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลงในช่วงหลังได้สะท้อนความไม่แน่นอนไปบางส่วนแล้ว จึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ปัจจุบันหุ้นซื้อขายกันที่ 0.6x PBV’24E หรือ -0.75SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี
การประชุมนักวิเคราะห์
• KTB มองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 2023 ว่าจะออกมาดีกว่าเป้า เพราะคาดว่า 1) NIM จะสูงกว่า 3.2% เทียบกับเป้าหมายที่ >2.8% (งวด 9 เดือน: 3.19%) หนุนจากดอกเบี้ยขาขึ้น 2) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) ที่ 40% ต้น เทียบกับเป้าหมายที่ 40% ต้นถึงกลาง (งวด 9 เดือน: 40.4%) และ 3) อัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ที่ต่ำกว่าเป้าหมายระดับ 3.5% (งวด 9 เดือน: 3.1%) แม้ธนาคารจะมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอ แต่ KTB ก็ยังคงอัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ระดับสูง จึงอาจทำให้ตัวเลขดังกล่าวทรงตัว QoQ ที่ 180% ในไตรมาส 4/23 ยิ่งกว่านั้น ธนาคารอาจมีการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมที่หลักหน่วยต้น ส่วนเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 3%-5% (ไม่รวมสินเชื่อภาครัฐ) อาจกลายเป็นสิ่งที่ท้าทายหากดูจากสภาพเศรษฐกิจ
• การก่อตัวของ NPL ปรับดีขึ้นเพราะสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลงเหลือ 7.4% ต่อสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/23 (ไตรมาส 2/23 7.9%) หลังจากมีการปรับชั้นสินเชื่อขึ้น• คาดว่า NIM จะขยายตัวในไตรมาส 4/23 เพราะการปรับเพิ่มดอกเบี้ยในช่วงหลัง แต่การแข่งขันด้านเงินฝากจะกดดันต้นทุนดอกเบี้ยในปี 2024
คาดแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่มั่นคง
• เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2023-24 ขึ้น 1%-2% เพราะ NIM ที่ปรับดีขึ้นจะช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่สูงขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิจะโตแข็งแกร่ง 18.3% ในปี 2023 (เดิมคาด 16.7%) แต่จะชะลอตัวเป็น 12.9% ในปี 2024 สืบเนื่องจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลง
• เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/23 จะโต 17% YoY จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่สูงขึ้น แต่กำไรสุทธิจะลดลง 8% QoQ เพราะ OPEX ที่สูงตามปัจจัยฤดูกาล
• ROE ของ KTB ปรับเพิ่มเป็น 10.3%/10.9% ในปี 2023-24 ตามลำดับ ซึ่งจะกลายเป็น ROE ที่สูงสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 23.00 บาท
มูลค่าพื้นฐานของเราคำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 10.5%, TG 2%) อิง 0.75x PBV’24E