GLOBAL (HOLD : Fair Price : Bt17.00) : คาดการบริโภคภาคเกษตรที่อ่อนแอจะฉุดกำไรไตรมาส 3/23 ลง

Published
16 October 2023
Share this article:

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/23 ที่ 506 ล้านบาท (-35%YoY, -28%QoQ) ฉุดจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ติดลบ 12.2% สืบเนื่องจากราคาขายสินค้าเหล็กที่ลดลงและอัตรากำไรสินค้าเหล็กที่หดตัว ราคาหุ้น GLOBAL ลดลง 28% YTD เพราะ SSSG ที่ลดลงลึก บวกกับการบริโภคในภาคเกษตรที่อ่อนแอ ปัจจุบันซื้อลงมาซื้อขายกันที่ -1S.D. หรือ 25xPE’24E ซึ่งเรามองว่าสะท้อนปัจจัยลบระยะสั้นไปแล้ว แต่หุ้นก็ยังขาดปัจจัยบวกระยะสั้น ขณะที่ SSSG ก็ยังติดลบ 13% ในเดือน ก.ย. 2023 สูงกว่า -12% ในเดือน ส.ค. 2023 ด้วยเหตุนี้เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐานที่ 17.00 บาท

คาดกำไรไตรมาส 3/23 จะลดลง YoY และ QoQ

• คาดรายได้ไตรมาส 3/23 จะอยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท (-9%YoY, -12%QoQ) เพราะคาดว่า SSSG จะติดลบ 12.2% YoY สืบเนื่องจากราคาขายเฉลี่ยสินค้าเหล็กที่ลดลงเพราะราคาในตลาดเหล็กที่ผันผวน ถ้าไม่รวมสินค้าเหล็ก SSSG อาจติดลบที่ 5% YoY ในไตรมาส 3/23 ฉุดจาการบริโภคที่อ่อนแอในภาคเกษตร แต่ SSSG ของสาขาในย่านท่องเที่ยวช่วงไตรมาส 3/23 อาจยังยืนอยู่ในแดนบวก

• ประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในไตรมาส 3/23 จะปรับดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เป็น 25.6% จาก 25.4% ในไตรมาส 2/23 สืบเนื่องจากอัตรากำไรสินค้าเหล็กที่ปรับดีขึ้น แต่คาดว่า GPM ในเชิง YoY จะลดลงจาก 25.8% ในไตรมาส 3/22 เพราะอัตรากำไรสินค้าเหล็กที่ลดลง และต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้นจากเงินเฟ้อ

• คาดว่าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายในไตรมาส 3/23 จะเพิ่มเป็น 18.8% จาก 16.2% ในไตรมาส 3/22 และ 16.7% ในไตรมาส 2/23 สืบเนื่องจากยอดขายที่ลดลงและค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น บวกกับต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการขยายสาขาใหม่ 2 แห่งในช่วงไตรมาส

• ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการร่วมทุน (JV) คาดว่าจะอยู่ที่ 25 ล้านบาท (-42%YoY, +17%QoQ) ในไตรมาส 3/23 สืบเนื่องจากผลกระทบของบาทแข็งเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในอาเซียนSSSG ยังไม่สู้ดีในเดือน ก.ย. 2023

• SSSG เดือน ก.ย. 2023 ติดลบ 13% ต่ำกว่าเดือน ก.ค. และ ส.ค. ที่ ติดลบ 12% สืบเนื่องจากการบริโภคที่อ่อนแอในภาคเกษตร

• บริษัทเปิดสาขาใหม่ 2 แห่งในช่วงไตรมาส 3/23 ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2023 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 82 แห่งในเดือน และ 1 สาขาในกัมพูชา

แนะนำ "ถือ" ขาดปัจจัยบวกระยะสั้น

มูลค่าพื้นฐาน 17.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 7.9%, TG 1.5%) อิง 30.4xPE’23E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย