Pi STOCK UPDATE : TOP (BUY : FAIR PRICE : Bt64.00)
" กำไรไตรมาส 1/23 โตดี "
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 64.00 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 1/23 อยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท เพิ่มจาก 146 ล้านบาทในไตรมาส 4/22 หนุนจากกำไรขั้นต้นเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ (GIM) ที่โต 6% และขาดทุนสต็อกน้ำมันที่ลดลง ด้านส่วนแบ่งอะโรเมติกส์ก็ปรับดีขึ้นเพราะอัตรากำไรที่ฟื้นตัว หลังจากจีนกลับมาเปิดประเทศ เราคาดว่าค่าการกลั่นจะอ่อนตัวในไตรมาส 2/23 เพราะความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาดและสภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เล็งเห็น downside risk ไม่มากหากเทียบราคาหุ้นปัจจุบันที่ซื้อขายกันในระดับ 0.7xPBV’23E หรือต่ำกว่า -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี ขณะที่คาดถึงอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 6.0% ในปี 2023/24
กำไรไตรมาส 1/23 โตแข็งแกร่ง
• กำไรสุทธิไตรมาส 1/23 อยู่ที่ 4.5 พันล้านบา (-37% YoY, >1000% QoQ) สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาด แม้ GIM จะโตขึ้น 53% แต่กำไรลดลง YoY เพราะขาดทุนสต็อกน้ำมัน 3.3 พันล้านบาทในไตรมาส 1/23 เทียบกับกำไรสต็อกน้ำมัน 1.44 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 1/22 ส่วนกำไรสุทธิที่พุ่งขึ้นสูง QoQ เป็นผลจาก GIM ที่โตขึ้น 6% บวกกับขาดทุนสต็อกน้ำมันที่ลดลงเมื่อเทียบกับขาดทุนสต็อกน้ำมัน 9.2 พันล้านบาทในไตรมาส 4/22
• หากไม่รวมกำไร/ขาดทุนสต็อกน้ำมัน GIM ตลาดในไตรมาส 1/23 จะเพิ่มเป็น US$11.8/บาร์เรล (+53% YoY, +6% QoQ) หนุนจากผลงานธุรกิจโรงกลั่นที่ดี เพราะค่าการกลั่นที่เพิ่มเป็น US$10.3/บาร์เรล (+60% YoY, +10% QoQ) หนุนจากค่าพรีเมี่ยมน้ำมันดิบที่ลดลงและส่วนต่างราคาเบนซินที่สูงขึ้น ขณะที่อัตราการกลั่นก็อยู่ที่ 112% สำหรับส่วนแบ่งธุรกิจอะโรเมติกส์นั้นฟื้นตัวขึ้นจากส่วนต่างราคา PX และ BZ ที่ดีขึ้น เพราะอุปสงค์จากเอเชียที่เพิ่มขึ้น หลังจีนคลายล็อกดาวน์ COVID-19
ค่าการกลั่นชะลอตัวในไตรมาส 2/23
• เราคาดว่าค่าการกลั่นจะชะลอตัวลงในไตรมาส 2/23 จากส่วนต่างราคาดีเซลและเชื้อเพลิงอากาศยานที่หดตัว ส่วนค่าการกลั่นสิงคโปร์ตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/23 ปรับลดลงมาอยู่ที่ US$2.9/บาร์เรล หรือลดลงเกือบ 65% จากค่าเฉลี่ยไตรมาส 1/23 ที่ US$8.2/บาร์เรล โดยมองว่าค่าการกลั่นจะเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจาก 1) อุปทานสินนค้าปิโตรเลียมที่ล้นเกิน เพราะการส่งออกจากรัสเซียและจีนที่สูงขึ้น และ 2) อุปสงค์ต่อเชื้อเพลิงอากาศยานและดีเซลที่ลดลง เพราะความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยจากการขึ้นดอกเบี้ยและปัญหาในกลุ่มธนาคารสหรัฐฯ และยุโรป
• คาดค่าการกลั่นจะทรงตัวภายในครึ่งหลังปี 2023 เพราะคาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวจากกิจกรรทางเศรษฐกิจของจีนที่ค่อย ๆ ดีขึ้น เรามองบวกต่อภาพรวมปี 2024 เพราะคาดว่าอัตรากำไรของทั้งกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากตลาดคลายกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 64.0 บาท
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 64.0 บาท อิง 0.9x PBV’23E คิดเป็นส่วนลด 10% ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี และสะท้อนอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ลดลง ทั้งนี้ แม้คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลงในปี 2023 แต่ควรมองว่าเป็นการกลับสู่ระดับปกติหลังจากที่สูงกว่าปกติไปในปี 2022 นอกจากนี้หุ้นก็มีมูลค่าซื้อขายถูกที่ 0.7 PBV’23E ต่ำกว่า -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี และคาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 5.9%/6.0% ในปี 2023/24