Pi STOCK UPDATE : PTTGC (BUY : FAIR PRICE Bt43.00)
" เข้าซื้อที่จุดต่ำ "
เพิ่มคำแนะนำจากถือเป็น "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 43.00 บาท ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและผลกระทบที่อาจส่งต่อมาถึงกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีคือปัจจัยที่ฉุดราคาหุ้นและมูลค่าหุ้นลงต่ำกว่า -1SD ต่อค่าเฉลี่ย PBV 5 ปี แต่เรามองว่าการฟื้นตัวของกำไรในครึ่งหลังปี 2023 ถึงปี 2024 จะหนุนราคาหุ้นและเป็นจุดเข้าซื้อที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว ส่วนค่าการกลั่นที่ลดลงในไตรมาส 2/23 จะกระทบกำไรบริษัทชั่วคราวเท่านั้น ขณะที่ภาพรวมในครึ่งหลังปี 2023 ถึงปี 2024 ยังคงสดใสอยู่ หนุนจากการเติบโตของอุปสงค์จากจีนที่จะมาช่วยหนุนการฟื้นตัวของอัตรากำไรทั้งในธุรกิจโพลีเมอร์และโรงกลั่นขึ้นได้
ฟื้นจากขาดทุนเล็กน้อย
กำไรสุทธิไตรมาส 1/23 อยู่ที่ 82 ล้านบาท (-98% YoY, พลิกฟื้นจากขาดทุนในไตรมาส 4/22) EBITDA แบบปรับฐานตัวเลขปรับเพิ่มขึ้น 82% QoQ เป็น 9.5 พันล้านบาท หนุนจากส่วนแบ่งธุรกิจต้นน้ำที่ดีขึ้น (โรงกลั่นและอะโรเมติกส์) แต่ส่วนแบ่งธุรกิจปิโตรเคมีขั้นกลางและเคมีภัณฑ์สมรรถนะสูงที่ลดลงทำให้ EBITDA อ่อนตัวลง 24% YoY
ธุรกิจต้นน้ำ (44% ของ EBITDA) มีผลงานที่แข็งแกร่ง ด้วย EBITDA ที่โตขึ้น 47% YoY และ 100% QoQ หนุนจากค่าการกลั่นที่แข็งแกร่งขึ้นและฟื้นตัวจากที่ปิดซ่อมบำรุงโรงงานไปเมื่อไตรมาส 4/22 ส่วนแบ่งธุรกิจอะโรเมติกส์ปรับเพิ่มจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นจากอุปสงค์ตามฤดูกาลและอุปทานที่ตึงตัว ส่วนธุรกิจโพลีเมอร์และเคมีภัณฑ์ (16% ของ EBITDA) มีผลงานที่ปรับดีขึ้นจากราคาโพลีเมอร์ที่ดีขึ้น (PE, PP) เพราะอุปสงค์จากจีนหลังกลับมาเปิดประเทศ แต่ส่วนแบ่งธุรกิจเคมีภัณฑ์ (22% ของ EBITDA) ปรับลดลง 31% YoY และ 26% QoQ จากผลประกอบการของบริษัทย่อยอย่าง Vencorex ที่ปรับลดลงเพราะยอดขายที่หดตัวเพราะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
ส่วนต่างราคาโพลีเมอร์ปรับเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำ
ผลงานที่ไม่สู้ดีในธุรกิจต้นน้ำทำให้ภาพรวมไตรมาส 2/23 หม่นหมอง คาดค่าการกลั่นลดลง QoQ ตามส่วนต่างราคาน้ำมันชนิดกลางที่ลดลง (ดีเซล เชื้อเพลิงอากาศยาน) ฉุดจากการส่งออกจากรัสเซียและจีนที่สูงขึ้น แม้สัญญาณการฟื้นตัวของส่วนต่างราคาปิโตรเคมี (หลัก ๆ คือโพลีเมอร์) จะชัดเจนขึ้นในไตรมาส 1/23 แต่คาดว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะกดดันส่วนต่างราคาต่อเนื่องในไตรมาส 2/23 แต่เรามองว่าจะผ่านพ้นช่วงที่แย่ที่สุดไปได้ภายในไตรมาสนี้ เพราะอุปสงค์จากจีนที่ฟื้นตัวจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของส่วนต่างราคาทั้งในธุรกิจโพลีเมอร์และโรงกลั่นขึ้นภายในครึ่งหลังปี 2023 เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อภาพรวมปี 2024-25 หนุนจากการเติบโตของอุปสงค์ต่อโพลีเมอร์ (PE, PP etc.) ที่คาดว่าจะมีปริมาณสูงกว่ากำลังการผลิตใหม่ทั่วโลกภายในปี 2024
เพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 43.00 บาท
เราคงมูลค่าพื้นฐานที่ 43.00 แต่เพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" เพราะ upside ที่ดีต่อราคาปัจจุบัน ราคาหุ้นที่ลดลงล่าสุดสะท้อนความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยไปแล้ว โดยมองว่ามูลค่าหุ้นที่ไม่แพงและการฟื้นตัวของกำไรในครึ่งหลังปี 2023 ถึงปี 2024 จะหนุนราคาหุ้นขึ้นและเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีสำหรับนักลงทุนระยะยาว ทั้งนี้ มูลค่าพื้นฐานของเราอิง 0.65x PBV’23E ใกล้เคียง -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี