Pi STOCK UPDATE : KKP (BUY : FAIR PRICE Bt74.00)

Published
Share this article:

" เน้นคุณภาพสินเชื่อมากขึ้น "

คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 74 บาท เราเล็งเห็นแนวทางการกระตุ้นสินเชื่อใหม่ของ KKP ที่รัดกุม และเน้นการคุมคุณภาพสินเชื่อมากขึ้นในปี 2023 หลังจากรับรู้ผลขาดทุนที่สูงขึ้นจากการขายรถยึดในไตรมาส 1/23 แต่แม้ว่าจะมีผลขาดทุนเพิ่มเติมในช่วง 2-3 ไตรมาสหน้า แต่ทาง KKP ก็มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่มากพอและยังคุมหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ส่วนเพิ่มได้อยู่ ขณะที่เราคาดว่ากำไรสุทธิจะโตช้าลงเป็น 9% ในปี 2023 (2022: +20%) ราคาหุ้นลดลงไป 15% YTD ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความกังวลที่กล่าวถึงข้างต้น แต่มองว่าหุ้นมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลน่าดึงดูดที่ 5.4%/5.9% ในปี 2023-24

การประชุมนักวิเคราะห์

• แม้ KKP จะเริ่มปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อยานยนต์อย่างรัดกุมในครึ่งหลังปี 2022 เพื่อกันไม่ให้เกิด NPLs ใหม่ แต่พบว่าสินเชื่อเช่าซื้อของธนาคารโตเฉลี่ยต่อปีมากขึ้นเป็น 20% ในช่วงปี 2020-22 ในการที่จะยกระดับคุณภาพสินเชื่อขึ้น ทางธนาคารจะต้องบริหารจัดการปริมาณรถยึดในเชิงรุก และคาดการณ์ถึงผลขาดทุนจากการขายรถยึดมากกว่านี้ ถึงกระนั้นก็คาดว่าจะขาดทุนน้อยกว่า 1.1 พันล้านบาทอย่างในไตรมาส 1/23

• ผู้บริหารคาดถึงรายได้ที่สูงขึ้นจากธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) การลงทุนทางตรง และการบริหารจัดการสินค้าที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (SAM) ซึ่งจะช่วยชดเชยผลขาดทุนที่สูงขึ้นจากการขายรถยึดในช่วง 2-3 ไตรมาสหน้าได้

• KKP ยืนยันว่ามีเงินทุนพอหนุนการเติบโตในอนาคต ขณะที่ประกาศการออก KKP-W5 ในจำนวนไม่เกิน 70.56 ล้านหน่วย และ KKP-W6 ไม่เกิน 70.56 ล้านหน่วย เพื่อนำเงินมาสนับสนุนธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต ทั้งนี้วอร์แรนท์ดังกล่าวเป็นการจัดสรรที่ไม่มีต้นทุน ด้วยอัตราส่วน 12 หุ้นเดิมต่อ KKP-W5 จำนวน 1 หน่วย และ KKP-W6 จำนวน 1 หน่วย อายุวอร์แรนท์ KKP-W5 และ KKP-W6 จะอยู่ที่ 10 เดือน และ 2 ปี 10 เดือน นับจากวันที่ออก ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีการจ่ายเงินปันผลที่ 1.50 บาท/หุ้นสำหรับการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 2022 ขึ้น XD 27 เม.ย. และจ่ายจริง 18 พ.ค.

แนวโน้มการเติบโตปานกลาง

เราปรับประมาณการกำไรสุทธิเพื่อสะท้อนถึงงบที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 1/23 ปัจจุบันคาดว่ากำไรสุทธิจะโต 9% YoY ในปี 2023 เป็น 8.3 พันล้านบาท (จาก 7%) แต่ยังคงประมาณการปี 2024 ที่ 9.8 พันล้านบาท (+8% YoY) เราไม่คิดว่า KKP จะกลับไปจ่ายเงินปันผลระดับที่สูงกว่า 60% อย่างในปี 2015-19 ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์การเติบโตและฐานเงินทุนขั้นที่ 1 ที่ลดลง แต่คาดว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลจะยังน่าดึงดูดในระดับ 5.4%/5.9% ในปี 2023-24 อิงจากสมมติฐานอัตราการจ่ายปันผลที่ 35% เทียบกับ 36.2% ในปี 2022

คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 74 บาท

มูลค่าพื้นฐาน 74 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 13.5%, TG 2%) อิง 1.0x PBV’23E หรือ -0.5SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี คำแนะนำซื้อสะท้อน 1) กำไรสุทธิที่โตต่อเนื่อง 2) มูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูด และ 3) อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูด