Pi STOCK UPDATE : HMPRO (BUY : FAIR PRICE Bt15.90)
" คาดกำไรไตรมาส 1/23 ทรงตัว YoY "
คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/23 ที่ 1.5 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY,
-8%QoQ) เพราะแรงกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น แต่คาดรายได้จะยังแข็งแกร่งที่ 1.7 หมื่นล้านบาท หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่บวก 4.2%YoY (HomePro +4%, Mega Home ทรงตัว YoY, HomePro Malaysia +9%) ขณะที่คาดกำไรไตรมาส 2/23 จะโต YoY และ QoQ หนุนจากช่วง high season การขยายสาขา Mega Home เชิงรุก และรายได้ย่านท่องเที่ยวที่พุ่งขึ้น เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 15.90 บาท (จาก 18.00 บาท) หลังปรับลดประมาณการกำไรปี 2023-24 ลง 1%-2% เพื่อสะท้อนถึง GPM ที่ต่ำคาดจากต้นทุนที่สูงขึ้นและสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นใจ
คาดกำไรไตรมาส 1/23 ทรงตัว YoY ท่ามกลางเงินเฟ้อสูง
• คาดรายได้ไตรมาส 1/23 ที่ 1.73 หมื่นล้านบาท (+7%YoY, -1%QoQ) หนุนจากยอดขายสินค้าตกแต่งบ้านที่คาดว่าจะโตเป็น 1.69 พันล้านบาท (+7%YoY) ได้อานิสงส์จากรายได้ย่านท่องเที่ยวที่พุ่งขึ้น การเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 3 แห่งในช่วงไตรมาส และมาตรการกระตุ้นภาครัฐ (ช้อปดีมีคืนช่วง 1 ม.ค. - 15 ก.พ. 2023) ขณะที่คาดว่ารายได้ค่าเช่าจะพุ่งแตะ 440 ล้านบาท (+7%YoY) เป็นเพราะการมอบส่วนลดค่าเช่าที่น้อยลง
• คาด GPM ไตรมาส 1/23 ชะลอตัวลง YoY และ QoQ เป็น 26.7% กดดันจากกำไรค่าเช่าที่ลดลง และคาดการณ์ว่าอัตรากำไรจากการขายสินค้าจะทรงตัว YoY และอ่อนตัวลง QoQ เป็น 26% ในไตรมาส 1/23 จาก 26.1% ในไตรมาส 4/22 สืบเนื่องจากต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้นและสัดส่วนยอดขายที่ไม่เป็นใจ (สัดส่วนยอดขายจาก Mega Home ที่สูงขึ้น) ซึ่งไปหักลบปัจจัยบวกจากต้นทุนขนส่งที่ลดลงและยอดขายสิบค้าแบรนด์ของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายในไตรมาส 1/23 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 18.5% จาก 17.7% ในไตรมาส 1/22 สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น และต้นทุนจากการขยายสาขาใหม่ 3 แห่ง
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าหุ้นไม่แพง
• แนะนำซื้อเพราะ HMPRO มีภาพรวมการเติบโตของกำไรที่สดใส และกำไรรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง จากการขยายสาขา Mega Home ในเชิงรุก มาตรการกระตุ้นภาครัฐหลังการเลือกตั้งในไทย และมูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูดระดับ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี
• มูลค่าพื้นฐาน 15.90 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 8.6% และ TG 3%) อิง 31xPE’23E หรือใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย
• เราปรับสมมติฐาน GPM จากการขายสินค้าสำหรับปี 2023 ลงเป็น 26.2% (+6bps YoY) จาก 26.3% เพื่อสะท้อนถึงต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้นและสัดส่วนสินค้าที่ไม่เป็นใจ นับว่าต่ำกว่าเป้าหมาย GPM ของบริษัทที่ +20bps YoY