Pi STOCK UPDATE : MEGA (BUY : FAIR PRICE Bt52.00)

Published
15 August 2023
Share this article:

" กำไรปกติไตรมาส 2/23 แตะยอดสูง "

กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 531 ล้านบาท (-7%YoY, +17%QoQ) เป็นเพราะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) เนื่องจากค่าเงินไนราไนจีเรีย/ดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลง ขณะที่กำไรปกติแตะยอดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 709 ล้านบาท (+30%YoY, +33%QoQ) หนุนจากอัตรากำไรในธุรกิจจัดจำหน่ายที่ปรับดีขึ้น (Maxxcare) ทั้งนี้ ราคาหุ้น MEGA ลดลงไป 17%YTD เพราะตลาดเริ่มคิดลด upside ที่เคยได้จากช่วง COVID-19 ลงแล้ว ขณะที่เราเชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนผลกระทบดังกล่าวไปแล้ว เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 52.00 บาท

อัตรากำไรแข็งแกร่งหนุนกำไรไตรมาส 2/23 โต YoY

• รายได้ธุรกิจ Mega We Care (ธุรกิจแบรนด์สินค้า) อยู่ที่ 2 พันล้านบาท (+1%YoY, +3%QoQ) ในไตรมาส 2/23 หนุนจากกลุ่มเภสัชภัณฑ์ที่ฟื้นตัวขึ้นและช่วยชดเชยกลุ่มผลิตภัณฑ์โภชนเภสัชที่ลดลงจากฐานสูงของปีก่อนที่มีอุปสงค์สูง (วิตามินและอาหารเสริม) เพราะเป็นช่วงที่ผู้คนให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันโรคและรักษาสุขภาพเป็นจำนวนมาก สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของ Mega We Care กลับมาหดตัวลงเป็น 65.8% ในไตรมาส 2Q23 จาก 66.9% ในไตรมาส 2/22 เพราะสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นใจ

• รายได้ธุรกิจ Maxxcare (ธุรกิจจัดจำหน่าย) อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท (+1%YoY) ในไตรมาส 2/23 แต่เมื่อปรับฐานตามผลกระทบ FX ในเมียนมา รายได้ธุรกิจ Maxxcare จะลดลง 8.6%YoY ฉุดจากขาดทุนจากลูกค้าหนึ่งรายในเมียนมา สำหรับ GPM ของธุรกิจ Maxxcare ปรับเพิ่มขึ้น 24.5% ในไตรมาส 2/23 จาก 16.3% ในไตรมาส 2/22 และ 20.4% ในไตรมาส 1/23 หนุนจากสัดส่วนยอดขายที่เป็นใจ

• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ที่ 26.0% ในไตรมาส 2/23 จาก 27.6% ในไตรมาส 2/22 และ 27.6% ในไตรมาส 1/23 จากการบริหารค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิภาพดี

**ภาพเป็นกลางในปี 2023 **

• เราคาดว่ายอดขายของ Mega We Care จะยังทรงตัว YoY ในปี 2023 เพราะรายได้ที่ฟื้นตัวจากเภสัชภัณฑ์ตามใบสั่งยาพร้อมกับจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งไปหักลบกับผลิตภัณฑ์โภชนเภสัช (วิตามินและอาหารเสริม) ที่ลดลงจากฐานสูงปีก่อน หรือช่วงที่ผู้คนให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันโรคและรักษาสุขภาพเป็นจำนวนมาก ส่วนยอดขาย Maxxcare คาดว่าจะลดลง 2% YoY ในปี 2023 เพราะขาดทุนจากลูกค้าหนึ่งราย ซึ่งคิดเป็น 7% ของรายได้ Maxxcare ในปี 2022 และคาดการณ์ที่ว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะลดลงจากเงินเฟ้อในเมียนมาที่สูงขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงคาดว่ากำไรปกติจะลดลง 3% YoY ในปี 2023 แต่ก็ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพการเติบโตในระยะยาวที่มีแรงหนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่โตขึ้น

คงคำแนะนำ "ซื้อ" มองว่ายังเป็นโอกาสเข้าซื้อ

มูลค่าพื้นฐาน 52.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 10%, TG 3.0%) อิง 19xPE’24E คิดลด 30% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มการแพทย์ไทย และใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 3 ปีของบริษัท