Pi STOCK UPDATE : KCE (BUY : FAIR PRICE Bt56.40)

Published
31 July 2023
Share this article:

" กำไรไตรมาส 2 โต QoQ เพราะบาทอ่อน "

เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 56.40 บาท คำนวณด้วยวิธี Gordon Growth Model (Ke: 10%, LT-growth: 6.50%) คาดว่ากำไรปกติไตรมาส 2/23 จะอยู่ที่ 507 ล้านบาท (-11% YoY, +47% QoQ) ฟื้นตัวดี QoQ เพราะฐานต่ำในไตรมาส 1/23 แม้ยอดขายกลุ่มยานยนต์ในตลาดโลกจะฟื้นตัวดีในไตรมาส 2/23 แต่เรายังมีมุมมองระมัดระวังต่อสภาพเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และ EU (72% ของยอดขายปี 2022) ขณะที่มีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมในระยะยาวของ KCE เพราะ 1) กระแส EV ที่มักใช้ PCBs ต่อ ตร.ม. มากกว่ารถสันดาปภายใน (ICE) ถึง 4-10 เท่า และ 2) การเริ่มเดินเครื่องโรงงานโรจนะแห่งใหม่ในครึ่งหลังปี 2024-2025 ซึ่งอาจกระตุ้นกำลังการผลิตขึ้นจากปัจจุบันได้ 83%

คาดกำไรไตรมาส 2/23 ปรับดีขึ้นจากบาทอ่อน

• เราคาดกำไรปกติไตรมาส 2/23 ที่ราว 507 ล้านบาท (-11% YoY, +47% QoQ) การเติบโต QoQ ได้แรงหนุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ที่เป็นใจ ส่วนที่ลดลง YoY เป็นเพราะอุปสงค์ชะลอตัว

• ขณะที่คาดว่ายอดขายไตรมาส 2/23 ในสกุลเงินดอลลาร์ฯ จะอยู่ที่ราว $120 ล้านบาท (-12% YoY, ทรงตัว QoQ) ตัวเลขการส่งออก PCBs ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาทรงตัวในเดือน เม.ย. และ พ.ค. 2023 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/23 สวนทางกับยอดขายกลุ่มยานยนต์โลกในไตรมาส 2/23 ชี้เป็นนัยว่ากลุ่มผู้ผลิตได้ใช้ PCB ในสต็อกมากกว่าสั่งซื้อเพิ่ม (ระยะเวลาจัดส่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ยังค่อนข้างนานเพราะสภาวะขาดแคลนอุปทานสำคัญที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง)

• เราประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในไตรมาส 2/23 จะโต 3.3ppts QoQ เป็น 22.9% จาก FX เงินดอลลาร์ฯ/บาทที่เป็นใจมากขึ้น ทั้งนี้ GPM ในไตรมาส 1/23 หดตัวลงเพราะมีการซื้อวัตถุดิบเข้ามาตอนที่บาทอ่อนในไตรมาส 4/22 แต่ขายสินค้าออกไปในช่วงที่บาทแข็งต้นไตรมาส 1/23 หากอิงสมมติฐาน FX ที่ราว 34.8 บาท เราเชื่อว่า GPM จะฟื้นตัวขึ้นได้ (ประมาณการ GPM ทั้งปี 2023 ของเราอยู่ที่ 21.2%)

คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 56.40 บาท

แม้ KCE อาจเผชิญปัจจัยกดดันระยะสั้นจากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจถดถอยในตลาดตะวันตก แต่ศักยภาพในระยะยาวยังสดใสอยู่ โรงงานโรจนะแห่งใหม่ก็ดำเนินไปตามแผนการอย่างราบรื่น และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จได้ภายในครึ่งหลังปี 2024-2025 ซึ่งจะช่วยหนุนกำลังการผลิต PCB ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกรณีที่ทั่วโลกเริ่มใช้รถ EV กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น (สัดส่วนยอดขายราว 70% มาจากกลุ่มยานยนต์)