Pi STOCK UPDATE : PLANB (BUY : FAIR PRICE Bt9.60)

Published
Share this article:

" คาดกลับสู่เส้นทางการเติบโต "

เราปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" หลังเลื่อนปีฐานการคำนวณมูลค่าพื้นฐาน เป็น 9.60 บาท (เดิม 9.20 บาท) อิง 40xPE’24E หรือ +0.5 SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี เราคาดว่ากำไรของบริษัทจะกลับมาเติบโตตั้งแต่ไตรมาส 2/23 และยาวตลอดไปช่วงที่เหลือของปี 2023 เพราะเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวตามการบริโภคในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่ทยอยกลับเข้ามา บวกกับสื่อนอกอาคารสถานที่ (OOH) ที่ยังชิงส่วนแบ่งจากแพลตฟอร์มอื่นได้อย่างต่อเนื่อง ประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยจากสินทรัพย์ที่ซื้อมาและการปรับปรุงต่าง ๆ ที่ส่งผลบวกไปสู่อัตราทดการดำเนินงาน (operating leverage) ที่ดีขึ้น และ การรับรู้กระแสรายได้จากการจัดงานกีฬา เช่น Asian Games ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาก็ทำให้ PLANB ดูน่าสนใจมากขึ้นเพราะคาดว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ดีกว่าอุตสาหกรรม แม้ราคาหุ้นซื้อขายในระดับแพง 42.3x’23E เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มสื่อที่ 36.4xPE’23

**คาดกำไรไตรมาส 2/23 ฟื้นจากจุดต่ำในไตรมาส 1/23 **

• คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/23 ที่ 215 ล้านบาท (+24%YoY +63%QoQ) กำไรที่โต YoY ได้แรงหนุนจากรายได้สื่อที่น่าจะกลับสู่ระดับที่ใกล้เคียงยอดสูงที่ 1.6 พันล้านบาท (+20%YoY +11%QoQ) ในไตรมาส 2/23 เป็นผลอัตราการดำเนินงานธุรกิจสื่อ (utilization rate) ที่คาดแตะ 70.0% เทียบกับ 64.8% ในไตรมาส 1/23 และ 57.3% ในไตรมาส 2/22 ส่วนเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมหลังกลับมาเปิดเมืองเต็มรูปแบบและการข้ามพ้นช่วง low season มาคือปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่น่าจะทำให้ธุรกิจสื่อนอกอาคารสถานที่ (OOH) ของ PLANB มีผลงานโดดเด่นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสื่อแบบทั่วไป เพราะบริษัทจะได้อานิสงส์เต็มที่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไหลเข้ามาและแบรนด์ดังระดับโลกที่มีการใช้สื่อโฆษณาในวงกว้างมากขึ้น (ราว 3%-4% ของรายได้สื่อของบริษัทในปี 2023)

• คาดรายได้ธุรกิจเอนเกจเมนท์จะอยู่ที่ 360 ล้านบาท (+11%YoY +12%QoQ) การเติบโต YoY และ QoQ คาดได้แรงหนุนจากรายได้ชุดแรกจากสิทธิการโปรโมท Asian Games มูลค่าราม 50 ล้านบาท ที่น่าจะไปชดเชยธุรกิจการตลาดในฝั่งเพลงที่ลดลงได้ ส่วนธุรกิจการตลาดกีฬาที่หลัก ๆ มาจากส่วนแบ่งรายได้ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่ง (FAT) และการแข่งขันกีฬาชกมวยอาจยังทรงตัว QoQ เพราะปัจจัยตามฤดูกาล

• อานิสงส์ที่เพิ่มขึ้นจาก operating leverage หลังจากธุรกิจสื่อมีอัตราการดำเนินงานฟื้นดีและต้นทุนสาธารณูปโภคที่ลดลงคาดทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ปรับเพิ่มเป็น 28.5% ในไตรมาส 2/23 เทียบ 25.0% ในไตรมาส 1/23 แต่ทั้งนี้ส่วนแบ่งรายได้จาก Asian Game และรายการชกมวย รวมถึงค่าเช่าและภาษีป้ายที่สูงขึ้นจากหน่วยธุรกิจ AQUA อาจปั่นทอน GPM ลง YoY จาก 28.8% ในไตรมาส 2/22 ได้

ภาพรวมกำไรแข็งแกร่งต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง

เราคาดว่ากำไรไตรมาส 3/23 จะยังแข็งแกร่ง เพราะมองว่าเม็ดเงินโฆษณาสื่อนอกอาคารสถานที่และสื่อเคลื่อนที่จะโตต่อเนื่อง (ตัวเลข Nielsen ชี้เติบโต 29% YoY ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2023) ซึ่งจะสอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนในประเทศที่ฟื้นขึ้น (มีค่าสหสัมพันธ์กับเม็ดเงินโฆษณา OOH ที่ 70%) หนุนจากกลุ่มท่องเที่ยวเป็นหลัก เราคาดว่า PLANB จะเริ่มรับรู้รายได้จากสิทธิการบริหารจัดการโปรโมทการแข่งขัน Asian Game Hangzhou 2022 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 ก.ย. แต่คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้ก่อนการแข่งขันที่บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 250 ล้านบาท (คาดรับรู้รายได้ไปแล้ว 50 ล้านบาทตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. 2023) เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ด้วยคาดการณ์ว่าจะแตะยอดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 871 ล้านบาท (+24%YoY) หนุนจากการรับรู้รายได้เต็มปีจาก AQUA บวกกับเม็ดเงินโฆษณาสื่อ OOH ที่คาดว่าจะยืนเหนือช่วงก่อน COVID-19 ได้ ส่วนปัจจัยลบที่ยังกดดันเกี่ยวกับเรื่องที่ 16 ทีมฟุตบอลที่ต้องการเป็นอิสระจากการควบคุมของ FAT ในเรื่องของรายได้สปอนเซอร์และการถ่ายทอดสดการแข่งขันจะส่งผลกระทบต่อกำไรของ PLANB ในระดับ 2% หากบริษัทต้องยุติหน้าที่การเป็นตันแทนสปอนเซอร์อย่างเป็
นทางการให้กับสโมสรเหล่านั้น แต่สัญญาระหว่าง PLANB กับ FAT จะยังมีผลไปจนถึงปี 2028 โดยบริษัทยังมีข้อต่อรองสำคัญคือประวัติการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมาตลอด