PI MACRO VIEW : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นหนึ่งตัวเลขสำคัญ
**Scope : **
• ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 71.2 ในเดือน ส.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 71.7 จากระดับ 71.6 ในเดือน ก.ค. อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันดีดตัวขึ้น 0.8 จุด สู่ระดับ 77.4
• กราฟด้านบนระบุถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จัดทำโดย ม.มิชิแกน (แกนด้านซ้าย) เปรียบเทียบกับ P/E ของดัชนี S&P 500 (แกนด้านขวา) ซึ่งจะเห็นได้ว่าดัชนีทั้งสองตัวมีการเคลื่อนไหวสอดคล้องกันในระดับหนึ่ง
• ตัวเลขความเชื่อมั่นข้างบนปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ทำจุดต่ำสุดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าคนสหรัฐฯ ตอบรับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมาระดับหนึ่งแล้ว ระดับรายได้ยังเพียงพอชดเชยส่วนที่หายไปจากเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัว นั่นหมายถึงมูลค่าเงินเพิ่มขึ้นบ้างจากการที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อให้เงินเฟ้อปรับลง
• เรายังติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จัดทำโดย Conference Board ซึ่งเมื่อนำตัวเลขทั้งสองมาหักลบจะสามารถหาส่วนต่าง (Spread) แล้วจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับปลายวัฎจักร (Late Cycle) เมื่อสเปรดอาจกำลังชะลอตัวในไม่ช้านี้ โดยข้อมูลของ Conference Board จะเปิดเผยในวันที่ 29 ส.ค.นี้
Pi Comment :
ปริมาณเงิน M2 เปรียบเทียบกับ Nominal GDP อยู่ระดับที่ตลาดคาดหมายและพอรับได้ เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องนับจากทำจุดต่ำสุดไตรมาส 2 ปี 2020 ซึ่งช่วยลดแรงเสียดทานจากการที่ปริมาณเงิน M2 ปรับตัวลง ดังนั้นตลาดหุ้นจึงตอบรับเชิงบวก ประกอบกับสัญญาณจากแรงกดดันเงินเฟ้อคลายตัวชัดเจนนับตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีที่แล้วท่ามกลางการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดตลอดมา ทั้งนี้เมื่อคืนวานนี้ที่สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 3.2%YoY แต่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 3.3%YoY ขณะเดียวกัน Core CPI ผิดคาดเนื่องจากแทบไม่ขยับ และค่าเช่ายังอยู่ระดับสูงเกินไป ซึ่งถ้าหากนักลงทุนจำได้ เราเคยรายงานการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อครึ่งปีหลังจะลง เนื่องจากราคาค่าเช่าหดตัวลง และมีความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อจะยังสูงและเฟดอาจจะต้องยืนดอกเบี้ยที่ระดับสูงไปอีกระยะ