DOHOME (HOLD : Fair Price : Bt12.10) : กำไรไตรมาส 3/23 ฟื้นตัวทั้ง YoY และ QoQ
ด้วยการที่ไตรมาส 3 ตรงกับฤดูฝนของไทยจึงทำให้ยอดขายในไตรมาสนี้ต่ำสุดของปี กำไรสุทธิไตรมาส 3/23 ของ DOHOME ออกมาอยู่ที่ 91 ล้านบาท(+80%YoY, +130%QoQ) ดีกว่าที่เราและ Bloomberg consensus คาด 12% โดยกำไรที่ฟื้นตัวดีมีแรงหนุนมาจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ปรับดีขึ้น แม้จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาก็ตาม แต่เรายังคงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐาน 12.10 บาท เพราะคาดว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะยังอ่อนแอ YoY จนถึงปลายไตรมาส 1/24 เพราะราคาขายเฉลี่ยสินค้าเหล็กที่ลดลง และยอดขายกลุ่มลูกค้ารับเหมาฯ ที่หดตัวลง ปัจจัยบวกสำหรับหุ้นอาจมาจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและเอกชน
อัตรากำไรที่ดีขึ้นหนุนให้กำไรไตรมาส 3/23 ฟื้น YoY
• รายได้ไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท (-1%YoY, -7%QoQ) ที่ลดลง YoY เพราะการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ไม่สามารถชดเชย SSSG ที่ติดลบ 7% YoY ได้ (จาก -9.9% ในไตรมาส 2/23) ฉุดจากการบริโภคภาคเกษตรกรที่อ่อนแอ ยอดขายกลุ่มรับเหมาฯ ที่ลดลง และราคาขายเฉลี่ยสินค้าเหล็กที่หดตัวตามราคาตลาดที่ผันผวน ส่วนรายได้ที่ลดลง QoQ เป็นเพราะปัจจัยตามฤดูกาลและการจัดทำงบประมาณที่ล่าช้าของรัฐบาล
• GPM ไตรมาส 3/23 เพิ่มเป็น 15.5% จาก 14.0% ในไตรมาส 3/22 และ 14.0% ในไตรมาส 2/23 หนุนจาก GPM ของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ปรับดีขึ้น บวกกับการบริหารจัดการสต็อกที่มีประสิทธิภาพ และการขาดหายไปของรายการขายล้างสต็อกอย่างในไตรมาสก่อน (เดือน พ.ค. - ก.ค. 2023)
• SG&A ต่อยอดขายในไตรมาส 3/23 ปรับเพิ่มเป็น 13.1% จาก 12.6% ในไตรมาส 3/22 และ 12.4% ในไตรมาส 2/23 สืบเนื่องจากต้นทุนของการขยายสาขาใหม่ และค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการจัดงานครบรอบ 40 ปีคาดกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ ในไตรมาส 4/23
• คาด SSSG เดือน ต.ค. 2023 พลิกเป็นบวกจาก -7% ในไตรมาส 3/23 เพราะการขาดหายไปของผลกระทบเหตุอุทกภัยที่มีต่อสาขาในอุบลราชธานี ซึ่งนับเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในไทยด้วยพื้นที่ขาย 45,266 ตร.ม. ด้วยส่วนแบ่งต่อรายได้ต่อปีที่ราว 5 พันล้านบาท หรือ 15% ของยอดขายรวม
• ด้วยเหตุนี้จึงคาดว่า SSSG ในไตรมาส 4/23 จะบวกเล็กน้อยที่ 1%-2% จาก -9% ในไตรมาส 4/22 เราจึงคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวแตะระดับราว 1.50 แสนล้านบาทในไตรมาส 4/23 และเราเชื่อว่าสาขาใหม่ที่ตั้งอยู่ในย่านท่องเที่ยวและที่ใกล้กับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จะช่วยหนุนการเติบโตของกำไรในปี 2024-25 ได้
• ในไตรมาส 3/23 บริษัทเปิดสาขาใหม่ไป 2 แห่ง (เชียงรายและอุยธยา) และมีแผนเปิดอีก 1 สาขาที่ปทุมธานีภายในไตรมาส 4/23 หลังจากห่างหายไปตั้งแต่ต้นปี 2023
แนะนำ "ถือ" หุ้นขาดปัจจัยบวกระยะสั้น
มูลค่าพื้นฐานที่ 12.10 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 7.7%, TG 3%) อิง 34.5xPE’24E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย