Pi STOCK UPDATE : TACC (BUY : FAIR PRICE Bt6.65)

Published
11 August 2023
Share this article:

" เริ่มดีขึ้นทั้งรายได้และกำไร "

TACC รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q23 ใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ที่ 53 ล้านบาท (-22%YoY,+26%QoQ) โดยการลดจากปีก่อนยังคงได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่รายได้ยังเติบโตได้ดีที่ 16%YoY,18%QoQ เป็นไปตามการขยายสาขาของ 7-11 ทั้งในและต่างประเทศ ส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารเสริมยังมีสัดส่วนไม่มากนัก แต่เป็นธุรกิจที่มีกำไรขั้นต้นสูงทำให้ในระยะยาวหากมีรายได้จากธุรกิจดังกล่าวเพิ่มจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้มากขึ้นได้ กำไรสุทธิในช่วง 1H23 ที่ออกมาคิดเป็นสัดส่วน 45% ของกำไรทั้งปีที่เราคาดไว้ทำให้เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปีที่ 213 ล้านบาทไว้เท่าเดิม โดยแนวโน้มในช่วง 2H23 คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้โดยเฉพาะผลดีของการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัว เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมโดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 6.65 บาท (9XPER’23E)

2Q23 รายงานกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท (-22%YoY,+26%QoQ)

• กำไรสุทธิงวด 2Q23 อยู่ที่ 53 ล้านบาท (-22%YoY,+26%QoQ) โดยการลดลงจากปีก่อนเกิดจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น ส่วนการเพิ่มขึ้นจาก 1Q23 เป็นไปตามการขยายสาขาของ 7-11 และเป็นช่วงฤดูร้อน

• รายได้อยู่ที่ 447 ล้านบาท (+16%YoY,+18%QoQ) สูงเป็นสถิติใหม่ ได้รับผลดีตามการเติบโตของ 7-11 ทั้งการเปิดสาขาใหม่และยอดขายต่อสาขาเดิม ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายอาหารเสริมและผลิตภัณเสริมความงามไตรมาสนี้มีจำนวน 2 ล้านบาท (-15%QoQ)

• กำไรขั้นต้น 33% ลดลงจาก 37% ใน 2Q22 จากผลกระทบของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ดีขึ้นจาก 32% ใน 1Q23 เพราะต้นทุนบางอย่างเริ่มลดลงแล้ว ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 79 ลบ. (+31%YoY.+22%QoQ) เพิ่มทั้งค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพราะมีการใช้รายการส่งเสริมการขายมากขึ้น และค่าใช้จ่ายในการบริหารตามเงินเดือนพนักงานที่เพิ่มขึ้น

• ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม (TCI) 2.4 ลบ. ทรงตัวจาก 1Q23 แต่เพิ่มขึ้นจาก 0.3 ลบ. ใน 2Q22 ทั้งนี้ทาง TACC มีแผนจะขายเงินลงทุนดังกล่าวออกไปภายใน 1H24 2H23 คาดรายได้ยังเติบโตได้ตาม 7-11 และภาคการท่องเที่ยว

• เรามองว่าแนวโน้มในช่วง 2H23 ของ TACC ยังเห็นการขยายตัวได้โดยเฉพาะในช่วง 4Q23 ที่เป็นช่วง High Seasons ของการท่องเที่ยว รวมถึงการขยายสาขาของ 7-11 ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่กัมพูชาที่ครึ่งหลังจะเปิดอีกกว่า 34 สาขา (1H23 เปิดประมาณ 20 สาขา)

** คงประมาณการกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิม **

• กำไรสุทธิในช่วง 1H23 คิดเป็นสัดส่วน 45% ของกำไรทั้งปีที่คาดไว้ที่ 213 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 2H23 ยังดูดีทำให้เรายังคงประมาณการไว้เท่าเดิม

• คำแนะนำการลงทุนเรามองว่า TACC ยังมีโอกาสเติบโตได้ตามการเปิดสาขาใหม่ของทั้ง 7-11 รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว เราจึงคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมและประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 6.65 บาท (19XPER’23E) ทั้งนี้ TACC จ่ายเงินปันผล 1H23 จำนวน 0.17 บาท/หุ้น XD 24 ส.ค. จ่าย 8 ก.ย. นอกจากนี้ยังมีโครงการซื้อหุ้นจำนวน 11 ล้านหุ้นระหว่างวันที่ 17 ส.ค. 23 – 16 ก.พ. 24