HMPRO (BUY, Fair Price: Bt15.90) : คาดกำไรไตรมาส 3/23 ทรงตัว YoY

Published
Share this article:

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/23 ทรงตัว YoY ที่ 1.53 พันล้านบาท (-5%QoQ) สืบเนื่องจากรายได้จากสาขาใหม่ที่เพิ่มเข้ามาจะถูกหักลบด้วยการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่คาดว่าจะติดลบ 3% จากปีก่อน (HomePro ที่ -3%, Mega Home ที่ -2.5%, และ HomePro Malaysia ที่ -5%) การบริโภคที่อ่อนแอหลังเลือกตั้งคือสาเหตุที่ฉุด SSSG ลงสู่แดนลบระดับหลักหน่วยต้นในเดือน ก.ค. 2023 และหลักหน่วยกลางในเดือน ก.ย. 2023 แต่เราเชื่อว่า SSSG จะดีขึ้นในไตรมาส 4/23 และปี 2024 หนุนจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐและยอดขายจากย่านท่องเที่ยวสำคัญที่ฟื้นตัว เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 15.90 บาท

คาดกำไรไตรมาส 3/23 ทรงตัว YoY

• คาดรายได้ไตรมาส 3/23 ที่ 1.68 หมื่นล้านบาท (+3%YoY, -8%QoQ) หนุนจากยอดขายกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน ที่คาดว่าจะโตแตะ 1.63 หมื่นล้านบาท (+3%YoY) จากการขยายสาขา Mega Home ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และรายได้จากย่านท่องเที่ยวที่ช่วยชดเชยการหดตัวลงของ SSSG

• ประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในไตรมาส 3/23 จะลดเหลือ 27.2% จาก 27.6% ในไตรมาส 3/22 เพราะยอดขายที่ไม่เป็นใจ แต่ปรับดีขึ้น QoQ จาก 27.1% เพราะอัตรากำไรค่าเช่าที่สูงขึ้น คาดว่า GPM ของผลิตภัณฑ์คาดว่าจะลดลง YoY และทรงตัว QoQ ที่ 26.3% ฉุดจากสัดส่วนยอดขายที่ไม่เป็นใจ กล่าวคือยอดขายสาขา Mega Home ที่ปรับสูงขึ้นและเป็นส่วนที่ให้อัตรากำไรต่ำกว่าสาขา Homepro ในระดับ 3%-4% ซึ่งจะไปหักลบกับปัจจัยบวกจากสัดส่วนยอดขายสินค้าแบรนด์บริษัทที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้น

• คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายในไตรมาส 3/23 จะยังทรงตัว YoY ที่ 19.2% เพราะค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น และต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการขยายสาขาใหม่

SSSG ยังติดลบ 5% ในเดือน ก.ย. 2023

• SSSG ของ HMPRO ติดลบ 5% (สาขา HomePro ติดลบในระดับหลักหน่วยกลาง Mega Home ติดลบหลักหน่วยต้น ส่วน HomePro Malaysia ทรงตัว YoY ในเดือน ก.ย. 2023)

• บริษัทเปิด HomePro สาขาใหม่ 1 แห่งในไตรมาส 3/23 ทำให้ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2023 บริษัทมีสาขา HomePro ทั้งหมด 87 แห่ง HomePro S 5 สาขา Mega Home 24 สาขา และ HomePro Malaysia 7 สาขา

**คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าหุ้นไม่แพง **

แนะนำ "ซื้อ" เพราะภาพรวมการเติบโตด้านกำไรที่สดใส หนุนจากยอดขายย่านท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว มาตรการกระตุ้นภาครัฐ และมูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูดในระดับ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี
มูลค่าพื้นฐานของเราที่ 15.90 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 8.6%, TG 3%) อิง 31xPE’23E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย