ฺBJC (HOLD : Fair Price : Bt 21.00) : SSSG ยังคงลดลง YoY ในช่วง QTD ของ 3Q25
เราคงคำแนะนำ “ถือ” ที่มูลค่าพื้นฐาน 21.00 บาท การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง QTD ของ 3Q25 ที่ -2% ถึง -4% YoY กดดันจากการปรับปรุงพื้นที่ของสาขาขนาดใหญ่ และกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนแอโดยเฉพาะในกทม. และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม้ว่าจะเห็น SSSG ของ Mini BigC +2% YoY ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้เราคาดว่าผลประกอบการ 3Q25 จะยังไม่สดใสนัก โดยเราคาดเห็นการฟื้นตัวของอัตรากำไรและยอดขายที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วง 4Q25 แนะนำรอทยอยสสะสมเมื่ออ่อนตัว
ระยะยาวดูสดใส ระยะสั้นฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
• ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ของยอดขายรวมในปี2025 ที่ +2% ถึง +3% YoY หนุนจากธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (+4% ถึง +6%YoY) และธุรกิจกลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และเทคนิค (+5% ถึง +7%YoY) ขณะที่คาดว่าธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ จะทรงตัว YoY ซึ่งสูงกว่าประมาณการเราที่ -1% YoY ในปี 2025
• ตั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้น +10 ถึง +20 bps YoY ใน 2025 (เดิม +20 ถึง +40 bps YoY) เทียบกับประมาณการเราที่ทรงตัว YoY
• ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (54% ของ EBITDA ใน 2Q25) ปรับเป้าหมาย SSSG ปี2025 เป็น ทรงตัว YoY (จากเดิม +2% ถึง +4%) ใน 1H25 มี SSSG -0.6% YoY หากตัดผลกระทบจากจำนวนวันที่ลดลง 1 วันจากปีก่อนในเดือน ก.พ. 2025, สินค้าที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบด้านสภาพอากาศ, และผลกระทบจากการปรับปรุงสาขา จะมี SSSG +1.6% ใน 1H25 ได้แรงหนุนจากสินค้าอาหารสด ตั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ทรงตัว YoY ในปี 2025 โดยคาดหวังการฟื้นตัวในช่วง 2H25 ราว30 bps YoY จากการจัดหาสินค้าโดยตรงกับผู้ผลิตที่จะเริ่มเข้ามาชัดเจนช่วงเดือน ก.ย. 2025 การเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่ม non-food ที่มี GPM สูง
• ธุรกิจอื่นๆ อาทิ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจกลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และเทคนิค มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ทั้งยอดขายและอัตรากำไรในช่วง 2H25 จากการออกสินค้าใหม่ งบประมาณภาครัฐที่ทยอยเบิกจ่าย และประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง เช่น Soda Ash, เศษแก้ว, และราคาพลังงาน รวมถึงการเลิกกิจการ TSS ที่ไม่ทำกำไร
• การปรับปรุงสาขาใหญ่ 17 สาขา ในปี 2025 แล้วเสร็จ 6 สาขาใน 1H25 จะเสร็จอีก 2 สาขา ใน 3Q25 (คาดมีผลกระทบต่อ SSSG 1.0-1.5%) และ 9 สาขา ใน 4Q25 ขณะที่คาดว่าสาขาขนาดใหญ่จะครบอายุสัญญา 30 ปี ราว 4-5 สาขา หากไม่ได้ต่อสัญญาจะเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีขนาดเหมาะสม และได้ยอดขาย/สาขา/ตร.ม. ที่ดีขึ้น
• การปรับโฉม Mini BigC จะช่วยให้อัตรากำไรดีขึ้นในระยะยาว แต่ไม่เห็นผลเร็วในระยะสั้น บริษัทมีแผนปิด 164 สาขา ในปี 2025 (จากสาขาทั้งหมดราว 1,600 สาขา) ปิดไปแล้ว 44 สาขาในช่วง 1H25 ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยปีปกติ โดยเตรียมปรับสินค้าให้ดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยมุ่งเน้นการขายสินค้าในกลุ่มอาหารสด อาหารพร้อมทานมากขึ้น โดยคาดเห็น EBIT Margin ดีขึ้น
• การย้ายคลังสินค้าจากวังน้อย (คลังเช่า) ไปยังคลังสินค้าของใหม่ของบริษัทที่บางประอิน ผ่านไปด้วยดี มีค่าใช้จ่ายเพียง 20 ล้านบาท และมีแผนจะย้าย Cross-dock DC จากธัญบุรีไปบางประอินช่วงปลายปี โดยคาดเห็นการประหยัดต้นทุน 150 ล้านบาทในปี 2026
คำแนะนำ “ถือ” แนวโน้ม SSSG ยังคงมีความท้าทาย
มูลค่าพื้นฐาน 21.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 1.5%) ใกล้เคียง 0.7 เท่า PBV และเทียบเท่า 18xPE’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ไทย