ลดหย่อนภาษีกับกองทุน KT-HEALTHC RMF และ KT-HEALTHCARE-SSF: Safe Heaven สวรรค์นักลงทุนในภาวะเศรษฐกิจผันผวน
ลดหย่อนภาษีกับกองทุน KT-HEALTHC RMF และ KT-HEALTHCARE-SSF: Safe Heaven สวรรค์นักลงทุนในภาวะเศรษฐกิจผันผวน
ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน การเลือกลงทุนในกองทุนที่มีความปลอดภัยและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพ (Healthcare) อย่าง กองทุน KT-HEALTHC RMF และ KT-HEALTHCARE-SSF เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงช่วยลดหย่อนภาษีได้ แต่ยังเป็น Safe Heaven หรือสวรรค์สำหรับนักลงทุนในจังหวะที่ทิศทางการไหลเวียนของกระแสเงินลงทุนในโลกยังไม่แน่นอนว่าจะไหลเข้าสู่ตลาดไหน
ทำไมการลงทุนในกองทุนกลุ่ม Healthcare ถึงน่าสนใจ เป็นสวรรค์สำหรับนักลงทุน?
- เสถียรภาพในภาวะเศรษฐกิจผันผวน: อุตสาหกรรมสุขภาพมีความต้องการสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นหรือขาลง ซึ่งทำให้หุ้นกลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่ำและความผันผวนน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ
- การเติบโตระยะยาว: จากการที่โลกมีประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น ความต้องการการดูแลสุขภาพและการใช้เทคโนโลยีด้านการแพทย์จึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตได้แม้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
- สิทธิประโยชน์ด้านภาษี: การลงทุนในกองทุน RMF และ SSF นอกจากจะได้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นคงในระยะยาวให้กับนักลงทุนอีกด้วย
กองทุน KT-HEALTHC RMF และ KT-HEALTHCARE-SSF ลงทุนในอะไร?
กองทุน KT-HEALTHC RMF และ KT-HEALTHCARE-SSF เป็นกองทุนฝาแฝด ที่มีนโยบายการลงทุนเหมือนกัน แต่ต่างกันที่สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่แตกต่างกัน โดยทั้ง 2 กองทุนนี้ เน้นลงทุนในกองทุนแม่เพียงกองทุนเดียวคือ **Janus Global Life Sciences Fund ซึ่งลงทุนในบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ การดำเนินชีวิตโดยทั่วไป Life Sciences ที่เกี่ยวกับการรักษาโรค หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นหลัก **
10 บริษัทที่กองทุน KT-HEALTHC RMF และ KT-HEALTHCARE-SSF ลงทุนมากที่สุด
กองทุน KT-HEALTHC RMF/KT-HEALTHCARE-SSF ลงทุนในบริษัทยาชั้นนำในโลกที่หลายคนรู้จักกันดี จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่ดีสำหรับนักลงทุนที่อยากลงทุนในหุ้นยาชั้นนำระดับโลก โดยมีสัดส่วนการลงทุนดังนี้
- UnitedHealth Group Inc 6.71%
- Eli Lilly & Co 4.76%
- AstraZeneca PLC 4.10%
- Novo Nordisk A/S 3.66%
- Sanofi 3.08%
- Merck & Co Inc 2.79%
- AbbVie Inc 2.60%
- Abbott Laboratories 2.59%
- Sarepta Therapeutics Inc 2.43%
- Vertex Pharmaceuticals Inc 2.40%
ประโยชน์ของการลงทุนใน KT-HEALTHC RMF และ KT-HEALTHCARE-SSF
- ลดหย่อนภาษี: การลงทุนใน RMF และ SSF สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร โดย RMF ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้แต่ไม่เกิน 500,000 บาท และ SSF ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้แต่ไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งช่วยลดภาระภาษีได้อย่างมาก
- ผลตอบแทนจากกลุ่มธุรกิจสุขภาพ: การลงทุนใน KT-HEALTHC RMF และ KT-HEALTHCARE-SSF เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงหุ้นและธุรกิจการแพทย์ชั้นนำที่มีการเติบโตทั่วโลก เช่น บริษัทยาที่พัฒนายาสมัยใหม่ โรงพยาบาล และบริษัทผลิตอุปกรณ์การแพทย์
- ป้องกันความเสี่ยงในระยะยาว: หุ้นกลุ่ม Healthcare มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว เนื่องจากความต้องการในการรักษาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนสามารถมั่นใจในความเสี่ยงที่ต่ำและผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
กลยุทธ์การลงทุนใน KT-HEALTHC RMF และ KT-HEALTHCARE-SSF
- วางแผนการลงทุนระยะยาว: นักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษีและต้องการความมั่นคงควรเน้นการลงทุนใน RMF เป็นหลัก เนื่องจากมีข้อกำหนดในการลงทุนต่อเนื่องถึงเกษียณ
- เลือกลงทุนใน SSF สำหรับความยืดหยุ่น: สำหรับนักลงทุนที่ต้องการความยืดหยุ่นและเป้าหมายลดหย่อนภาษีในปีนั้นๆ SSF เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถถอนเงินได้เมื่อครบกำหนด
- กระจายการลงทุนในธุรกิจสุขภาพทั่วโลก: ทั้ง RMF และ SSF นี้ลงทุนในบริษัทสุขภาพที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ข้อมูลพื้นฐานของกองทุน KT-HEALTHC RMF
- บริหารจัดการโดย: บลจ. กรุงไทย (KTAM)
- ประเภทกอง: Healthcare Equity
- ระดับความเสี่ยง: 7
- กองแม่ (Feeder Fund): Janus Henderson Global Life Sciences Fund
- นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
- ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน (Management Fee): 1.61% ต่อปี
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Minimum buy): 500 บาท
- นโยบายการจ่ายปันผล: ไม่จ่าย
- รายละเอียดเพิ่มเติม: หนังสือชี้ชวน
ข้อมูลพื้นฐานของกองทุน KT-HEALTHCARE-SSF
- บริหารจัดการโดย: บลจ. กรุงไทย (KTAM)
- ประเภทกอง: Healthcare Equity
- ระดับความเสี่ยง: 7
- กองแม่ (Feeder Fund): Janus Henderson Global Life Sciences Fund
- นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
- ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน (Management Fee): 1.07% ต่อปี
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Minimum buy): ไม่มี
- นโยบายการจ่ายปันผล: จ่าย
- รายละเอียดเพิ่มเติม: หนังสือชี้ชวน
รวมโปรโมชันกองทุนลดหย่อนภาษี SSF/RMF/ThaiESG 2024 ลดหย่อนภาษีได้ รับ Fund Back ด้วย
✅ ต่อที่ 1: รับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 800,000 บาท
ลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน SSF/RMF/ThaiESG ที่ช่วยให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุดถึง 800,000 บาท
✅ ต่อที่ 2: เมื่อลงทุนกองทุนที่ร่วมรายการ* รับกองทุนตลาดเงิน (Fund Back) คืนสูงสุด 0.2% ของมูลค่าการลงทุน
ให้การลงทุนกองทุน SSF/RMF/ThaiESG คุ้มค่าไปอีกขั้น กับโปรโมชันจัดเต็มจากบลจ. ชั้นนำ ที่จะทำให้การลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีคุ้มค่ากว่าที่เคย เพราะนอกจากจะสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้แล้ว ยังได้รับรางวัลเป็นกองทุนตลาดเงิน (Fund Back) จากบลจ. อีกด้วย Pi Financial รวบรวมโปรโมชันกองทุนลดหย่อนภาษีจากบลจ. ชั้นนำมาให้คุณในที่เดียว ไม่ว่าจะกองทุนจากบลจ. ไหนในลิสต์นี้ ก็สามารถซื้อได้ที่ Pi Financial App ศึกษารายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติม
ไม่ว่าจะกองทุน SSF/RMF/ThaiESG กองไหนในลิสต์ก็สามารถซื้อได้ที่ Pi Financial App ทั้งหมด เพราะที่ Pi มีกองทุนมากกว่า 1,800 กองทุนจาก 18 บลจ. ชั้นนำให้คุณได้เลือกลงทุนได้ในที่เดียว เริ่มต้นวางแผนลดหย่อนภาษีและเริ่มต้นลงทุนกองทุน RMF เลยวันนี้ที่ Pi Financial App
คำเตือน-
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนและจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด
-
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท