Daily Strategy : เงินบาทแข็งค่าสวนทางดอลลาร์แข็งค่าเป็นจิตวิทยาบวกตลาดหุ้น
Market Update :
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 426 จุด (+0.97%) แรงหนุนจากการซื้อหุ้นอิงกลุ่มเศรษฐกิจเพราะคาดหวังถึงการฟื้นตัวจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ดี ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.3% นักลงทุนยังคงกังวลกับสงครามที่รุนแรงขึ้นระหว่างยูเครน - รัสเซีย
Market Outlook :
วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้รายงานดัชนี PMI ทั้งภาคผลิตและภาคบริการในเบื้องต้น พบว่าดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะภาคบริการ ภายหลังจากทราบผลข้างต้นพบว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นได้ดี โดยเฉพาะแรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (+1.2%) กลุ่มการเงิน (+1.1%) อสังหา (+0.8%) สะท้อนถึงเม็ดเงินไหลเข้าหากลุ่มอิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมกับการปรับขึ้นของ US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2, 10 ปี สอดคล้องกับ Dollar Index ที่แข็งค่าต่อเนื่องและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 ปี ด้าน CME FED Watch น้ำหนักเริ่มให้โอกาสคงดอกเบี้ยมากขึ้นในการประชุม FED เดือน ธ.ค. แต่อย่างไรก็ตามการแข็งค่าของ Dollar ไม่เป็นผลให้เงินบาทอ่อนค่า วันศุกร์ที่ผ่านมาเงินบาทกลับแข็งค่าลงมาทดสอบ 34.4 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าเกิดจากการท่องเที่ยวไทยที่กำลังเข้าสู่ปัจจัยฤดูกาลหนุนเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าไทย ตามสถิติแล้วเงินบาทมักแข็งค่าในช่วงเดือน ธ.ค. - ม.ค. และ ก.พ. จะเริ่มกลับมาอ่อนค่า แต่ทั้งนี้ด้วยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมามองเป็นบวกเล็กน้อยกับกระแสทุนต่างชาติที่อาจเห็นการชะลอการขายหรือกลับมาซื้อสุทธิ ล่าสุดในวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพียงเล็กน้อย (117 ล้านบาท) และสถาบันเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ (วันศุกร์ซื้อสุทธิ 1.3 พันล้านบาท) ปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้ได้แก่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 112 พร้อมกับยอดขายบ้านมือหนึ่งของสหรัฐฯในวันเดียวกัน Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 7.2 แสนหลังคาเรือน วันพุธติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) GDP 3Q24 (รอบ 2) Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.3%YoY , 2.8%QoQ ตามลำดับ และสุดท้ายรายงานผลประชุม FED (FED Minutes) ในช่วงกลางคืนวันพฤหัสบดี สำหรับในประเทศรอติดตามตัวเลขการค้าระหว่างประเทศในวันอังคาร Bloomberg Consensus คาดการณ์มูลค่าส่งออกจะขยายตัว 5.2%YoY แต่จะขาดดุลการค้าราว 302 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1435 – 1470 มีมุมมองบวกมากขึ้นกับตลาดหุ้นเพราะเชื่อว่า Price In แรงกดดันจาก Trump Effect ไปมากแล้ว ขณะที่เศรษฐกิจไทยค่อยๆฟื้นตัวจากการบริโภค ท่องเที่ยว และภาครัฐ แนะนำ Trading เช่นเดิมเน้นที่หุ้นค้าปลีก (BJC CRC CPALL GLOBAL DOHOME) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB)
**หุ้นแนะนำซื้อวันนี้ : **
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)
รายงานกำไรงวด 3Q24 ที่ 5.6 พันล้านบาท (+27%YoY) หลังหักรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 6.2 พันล้านบาท (+45%YoY) ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 9% หนุนจากยอดขายสาขาเดิมของ 7-11 ที่เติบโต 3.3%YoY จากยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานและ Personal Care ที่เติบโตดี รวมกับการเติบโตของกำไรของ CPAXT จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Makro +1.5% และ Lotus’s +2.3%) ขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 4Q24 จะเติบโต YoY และ QoQ ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว
CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 87.00 บาท)
กำไรสุทธิงวด 3Q24 ที่ 4,126 ล้านบาทดีกว่าที่เราคาดไว้ 5% โดยทรงตัวจากปีจากผลดีของกำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นหลังจากรายได้จากยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นได้กว่า 7% แต่ลดลง 9%QoQ มีปัจจัยลบจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามากว่า 340 ล้านบาท และยอดโอนอสังหาริมทรัพย์ลดลง สำหรับแนวโน้มช่วง 4Q24 เรายังมีมุมมองเดิมที่คาดว่าในแง่รายได้จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง