งบหุ้นไทย ไตรมาสที่ 3/2025 แม้โตไม่เด่น แต่มีหุ้นน่าสนใจซ่อนอยู่

สรุปงบประกอบการหุ้นไทยไตรมาส 3/2025 รายได้รวมลดลง 7% แม้กำไรดูโตแรงแต่ถูกดันด้วยฐานต่ำ พร้อม 6 หุ้นเด่นที่น่าจับตาในไตรมาส 4

📰 ภาพรวมที่หลายคนอาจพลาดและมองข้ามไป: งบ Q3/2025 ฟื้นช้า แต่มีสัญญาณบางอย่างที่เริ่มกลับมา
ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยไตรมาส 3/2025 ออกครบกว่า 600 บริษัทแล้ว และตัวเลขหนึ่งที่ทำให้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนคือ…

รายได้ทั้งตลาดลดลง 7% แต่กำไรสุทธิกลับโตแรง 38%

ฟังดูแปลกใช่ไหม? ทำไมยอดขายลด แต่กำไรกระโดด?

คำตอบคือ…ตัวเลขกำไรส่วนใหญ่ ถูกดันด้วยกลุ่มพลังงานและบริษัทใหญ่บางตัว ไม่ใช่การโตที่มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจริงทั้งหมด และนี่คือเหตุผลที่หลายคนรู้สึกว่า “ตลาดหุ้นไม่ค่อยไปไหน” นั่นเอง เพราะพื้นฐานจริงหลายธุรกิจยังโตช้า แม้ตัวเลขบางมุมจะดูดี

📉 รายได้ทั้งตลาดลดลง 7% สะท้อนกำลังซื้อคนไทยยังอ่อนแรง

เมื่อมองตัวเลข “รายได้รวม” ของตลาดก็เห็นทันทีว่า ลดลงประมาณ 7% เทียบปีก่อน ถือเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังซื้อในประเทศยังซบเซา แม้บางกลุ่มจะเริ่มฟื้น แต่โดยรวมยังไม่แรงพอ

กลุ่มที่ขายดีขึ้น ได้แก่

• • อิเล็กทรอนิกส์ → ออเดอร์กลับมา ทำให้บริษัทในกลุ่มนี้ปรับตัวได้ดี
• • รับเหมาก่อสร้าง → โปรเจกต์ที่เคยชะลอตัวกลับมาเดินหน้า ส่งผลให้รายได้โตชัดเจน

ส่วนกลุ่มอื่น ๆ นอกจากนี้ถือว่าทรงตัวหรือถอยลงเป็นส่วนใหญ่ ทำให้งบประกอบการหุ้นไทยยังฟื้นไม่เต็มที่

📈 ด้าน EBIT โต 26% แต่เป็นเพียงภาพที่ดูสวยเกินจริง

ถ้าดูผิวเผิน จะเห็นว่า EBIT หรือ “กำไรจากการทำธุรกิจจริง” โตถึง 26% แต่ความจริงตัวเลขนี้ถูกดันขึ้นมาจาก “ฐานต่ำ” ของธุรกิจพลังงานในปีก่อน และปีที่แล้วกำไรกลุ่มพลังงานต่ำมาก พอปีนี้ดีขึ้นนิดเดียว ตัวเลขรวมเลยดูพุ่งแรงแบบหลอกตา

🔍EBIT คืออะไร?

EBIT = กำไรจากการทำธุรกิจจริงที่ยังไม่หักดอกเบี้ยและภาษี

นึกภาพร้านอาหารที่ขายได้ 100 บาท

หักต้นทุนวัตถุดิบ + ค่าลูกจ้าง = EBIT

(ยังไม่คิดดอกเบี้ยกู้ร้าน ยังไม่คิดภาษี)

👉🏻 มันคือ “ตัววัดว่าธุรกิจทำงานเก่งแค่ไหน”

ปัญหาจริง ๆ ของตัวเลขนี้คือ…ปีที่แล้วกำไรกลุ่มพลังงานต่ำมาก พอปีนี้ดีขึ้นนิดเดียว ทำให้ EBIT ของทั้งตลาดขึ้นไปเยอะ ไม่ใช่เกิดจากการฟื้นตัวของบริษัทส่วนใหญ่จริง ๆ และหากเราลองตัดกลุ่มพลังงานออกไป ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า EBIT ของบริษัทไทยแทบไม่โตเลย ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะนักลงทุนจำนวนมากเห็นแค่ตัวเลขโต แต่ไม่ได้ดูโครงสร้างว่าโตเพราะใคร

💰กำไรสุทธิรวมตลาดโต 38% — แต่ถ้าตัด Global Play เหลือโตจริงแค่ 6%

ตัวเลขกำไรสุทธิดูดีมาก โต 38% แต่ก็เป็นเพราะ 3 กลุ่มใหญ่ช่วยดัน ได้แก่ พลังงาน/ปิโตรเคมี/สื่อสาร เมื่อเอากลุ่ม Global Play เหล่านี้ออก จะเห็นว่า กำไรจริงของบริษัทไทยส่วนใหญ่โตแค่ 6% เป็นตัวเลขที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจได้ดีว่า การฟื้นตัวของไทยยังช้า และยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร

🔮 มุมมองไตรมาส 4/2025 นักวิเคราะห์ของ บล. พาย เริ่มเห็นสัญญาณฟื้น

ถึงภาพรวม Q3 จะดู “นิ่ง ๆ” แต่ไตรมาส 4 มีเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเริ่มมั่นใจมากขึ้น ได้แก่

• ✅ มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ (คนละครึ่งพลัส) → ช่วยเพิ่มเม็ดเงินใช้จ่ายในระบบ
• ✅ เข้าสู่ช่วงท่องเที่ยวไฮซีซัน → ดีต่อ ธุรกิจกลุ่ม ค้าปลีก/โรงแรม/ศูนย์การค้า/ขนส่ง
• ✅ อิเล็กทรอนิกส์ยังฟื้นต่อ → ทำให้กลุ่ม Tech Play ยังมีโอกาสโตต่อเนื่อง

ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความหวังว่ารายได้และกำไรของหลายกลุ่มจะดีขึ้นในช่วงปลายปี

🎯 หุ้นที่น่าจับตาต่อเนื่องในไตรมาส 4 ตามมุมมอง บล.พาย

จากงบประกอบการหุ้นไทยและแนวโน้มไตรมาสหน้า หุ้นที่ดูโดดเด่น ได้แก่

• CPALL
• CPN
• SCB
• MTC
• ICHI
• AWC

ซึ่งเป็นกลุ่มหุ้นที่ทางเรามองว่า มีพื้นฐานแน่นและมีปัจจัยหนุนชัดเจน

คำเตือน : ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้และใช้ประกอบการวิเคราะห์เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชี้ชวนหรือแนะนำให้ซื้อขายหลักทรัพย์โดยตรง การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน และผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต