Weekly Insight 18-22 December 2023
สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นำโดยดัชนีหุ้นขนาดเล็ก Russell 2000 ปรับตัวบวกโดดเด่น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้าถึง 3 ครั้ง ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 4% หนุนบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกผ่อนคลาย นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีดาวน์โจนส์ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ในส่วนของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวในแดนลบโดยถูกกดดันจากทิศทางเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น สำหรับตลาดหุ้นจีนยังเป็นตลาดที่น่าผิดหวังปิดสัปดาห์ในแดนลบต่อเนื่อง ในส่วนของราคาน้ำมันฟื้นตัวหลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าตามทิศทางของการสิ้นสุดวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ย
มุมมองการลงทุนในสัปดาห์นี้
การสื่อสารในเชิงผ่อนคลายความตึงตัวด้านนโยบายการเงินของ Fed ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2024 จะเกิดภาวะ Goldilocks ที่ยังมีการเติบโตได้แบบค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่เงินเฟ้อชะลอตัวลง ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed จะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถรอดพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ ความคาดหวังดังกล่าวหนุนตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นร้อนแรง โอกาสปรับตัวขึ้นต่อจากนี้อาจเป็นไปได้เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดพร้อมเปิดรับความเสี่ยงที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ปิดโอกาสที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นยังมีความเสี่ยงสูง หลังจากรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตบ่งชี้การหดตัวมากขึ้น ดังนั้นความเสี่ยงจึงมากขึ้นตาม สำหรับตราสารหนี้ เรามีมุมมองเป็นบวกลดลงเล็กน้อยหลังผ่านจุดที่น่าสนใจมากที่สุดมาแล้ว
คำแนะนำประจำสัปดาห์
ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการหาโอกาสเก็งกำไรตาม momentum ตลาด ควรพิจารณาจุดเข้าซื้อด้วยความระมัดระวัง ควรมีวินัยในการลงทุนเป็นอย่างสูง และกำหนดจุดตัดขาดทุนอย่างเคร่งครัด
สำหรับผู้ลงทุนระยะยาวที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นโดยภาพรวมสูง ยังคงแนะนำหาโอกาสลดสัดส่วน เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงแต่ทิศทางกำไรไม่ได้เติบโตตามมากนัก ทำให้ระดับ Valuation ในปัจจุบันแพงยิ่งขึ้น และเสี่ยงต่อการเผชิญแรงขายทำกำไรหากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ สำหรับตราสารหนี้ ทยอยสะสมได้โดยเน้นจังหวะดอกเบี้ยดีดตัวขึ้น
กองทุนแนะนำ :
K-GDBOND-A กระจายลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก บริหารเชิงรุก