TTB (HOLD : Fair Price : Bt 2.00) : เติบโตอย่างระมัดระวัง เน้นบริหารเงินกองทุน

Published
Share this article:

**คงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐาน 2.00 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8%, TG 2%) อิงจาก 0.8x PBV’26E เศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้การเติบโตมีข้อจำกัด กอปรกับแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงกดดันรายได้ดอกเบี้ยลดลง แม้ว่าจะพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายก็ตาม เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025 จะปรับลดลง 3% และคาดกำไรจะทรงตัว YoY ในปี 2026 ธนาคารให้ความสำคัญต่อการใช้เงินกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการเติบโตสินเชื่อ ดังนั้น เราคาด TTB จ่ายเงินปันผลสูง ทำให้คาดผลตอบแทนเงินปันผลสูงราว 6.9% ในปี 2025-26 และจะกลับดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนอีกครั้งในปี 2026 แนวโน้มใน 4Q25 คาดกำไรจะปรับลดลง QoQ แต่ทรงตัว YoY **

กำไรสุทธิเติบโต YoY และ QoQ

• กำไรสุทธิใน 3Q25 ออกมาที่ 5.3 พันล้านบาท (+1% YoY, +6% QoQ) ดีกว่าคาด 5% เนื่องจากสำรองหนี้ฯ ต่ำกว่าคาด

• กำไรเติบโต YoY และ QoQ เนื่องจาก (1) รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมกองทุนรวม แบงก์แอสชัวรันส และธุรกิจหลักทรัพย์จากการรวมผลการดำเนินงานของ บล. ธนชาต (2) สำรองหนี้ฯ ลดลง Credit cost ลดลงเหลือ 132 bps (-16 bps YoY, -8 bps QoQ) และ (3) รับรู้ผลประโยชน์ทางภาษีเพิ่มขึ้น

• สินเชื่อรวมลดลง 0.7% QoQ ส่งผลให้สินเชื่อใน 9M25 ลดลง 3.5% YTD

• NIM ลดลงที่ 3% (-27 bps YoY, -7 bps QoQ) เพราะอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่ลดลง

• งบดุลดีขึ้น หนี้เสียทรงตัว แต่ NPL ratio เพิ่ม 2.8% เพราะฐานสินเชื่อที่ลดลง ขณะที่ Coverage ratio เพิ่มเป็น 151% และ Stage 2 ratio ลดลงที่ 7.6%

เน้นบริหารเงินกองทุนที่เหมาะสมมากกว่าขยายสินเชื่อ

• ภายใต้แรงกดดดันจากเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้การขยายสินเชื่อไม่ใช่กลยุทธ์หลักเพื่อสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ธนาคารให้ความสำคัญต่อการใช้เงินกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพผ่านโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) และการจ่ายเงินปันผลสูง เราคาดผลตอบแทนเงินปันผลที่ 6.9% ในปี 2025-26 ทั้งนี้ TTB ได้จ่ายเงินปันผล 0.066 บาท ใน 1H25

• ความพยายามในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน พัฒนาระบบ IT และเพิ่มผลตอบแทนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มีเสถียรภาพต่อผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง เราคาดว่ากำไรในปี 2025 ปรับลดลง 3% YoY

• ในปี 2026 แม้มีแรงกดดันจากสินเชื่อ และ NIM ลดลง เรามองว่า TTB ควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ดี และมีสำรองหนี้ฯ ส่วนเกิน (Management overlay) ราว 20% ของสำรองหนี้ฯ รวมรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้ TTB สามารถผ่อนคลายสำรองหนี้ฯ ลง เราคาดว่ากำไรในปี 2026 จะทรงตัว YoY

• โครงการ “คุณสู้เราช่วย” สินเชื่อเข้าร่วมโครงการรวม 40 พันลบ. คิดเป็นเพียง 3.3% ของสินเชื่อรวม ทำให้มีผลกระทบจำกัดต่อผลการดำเนินงานของธนาคาร