KTB (BUY : Fair Price : Bt 24.50) : เน้นคุณภาพการเติบโต และเงินปันผลสูง

Published
Share this article:

**คงคำแนะนำ "ซื้อ" คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 7.1% ในปี 2025 ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 24.50 บาท ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 9.5%, Terminal growth 2%) อิง 0.7x PBV’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี (2015-2024) โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวจากความท้าทายสูงขึ้นจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และความเปาะบางของกลุ่มลูกหนี้รายย่อย และ SME ทำให้ธนาคารต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเติบโต อีกทั้ง NIM ลดลงจากวัฐจักรดอกเบี้ยลดลง แต่การควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดีทำให้สามารถผ่อนคลายการตั้งสำรองหนี้ฯ ลง และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยช่วยหนุนให้สามารถรักษาการเติบโตของกำไรเติบโตได้ แม้จะเป็นการเติบโตชะลอตัวที่ 1%/2% ในปี 2025-26 **

การประชุมนักวิเคราะห์

• KTB คาดเศรษฐกิจไทยปี 2025 เติบโต 0.7-2.0% และอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลงอีก 1 ครั้ง เหลือ 1.50% ณ สิ้นปี 2025

• เป้าหมายทางธุรกิจมีความท้าทายเพิ่มขึ้น แต่ KTB ยังคงเป้าหมายการเงินของปี 2025 ไว้ตามเดิม เพราะมองว่ายังจัดการได้ และจะทบทวนอีกครั้งหลังเดือน มิ.ย. ประกอบด้วย (1) สินเชื่อเติบโต: Flat (2) ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): 2.9-3.2% แนวโน้มเป็นกรอบล่าง (3) การเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ: Low to Mid Single digit (4) NPL ratio: <3.25% ยังควบคุมตุณภาพสินเชื่อได้ดี (5) Credit cost: 105-125 bps โดยมองว่าสำรองหนี้ฯ เป็นระดับสูงสุดใน 1Q และจะปรับลดลงในไตรมาสหน้า (6) Coverage ratio: 170% +/- แต่ด้วยความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นทำให้รักษาไว้ที่ระดับ 180% และ (7) Cost to income ratio: Low to Mid 40% โดยมีการลงทุนในระบบ IT ต่อเนื่อง ขณะที่ด้านค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ
NPA ที่บันทึกไว้สูง 1.6 พันลบ. ใน 1Q25 จะปรับลดลงในไตรมาสหน้า

• การเติบโตสินเชื่อมีความท้าทายมากขึ้นจากนโยบายการค้าของสหรัฐ เน้นคุณภาพควบคู่กับอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม (1) ลูกค้าธุรกิจเป็นกลุ่มลูกค้าเก่า และสามารถเติบโตได้ และ (2) ลูกค้ารายย่อย เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัยในกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนที่เป็นพนักงานประจำ รายได้มั่นคง และที่พักอาศัยอยู่ในโครงการระดับสูง นอกจากนี้ ขยายพอร์ตสินเชื่อบ้านแลกเงิน

• งบดุลแข็งแกร่งและเงินกองทุนสูง KTB มีนโยบายคงอัตราการจ่ายเงินปันผล หลังจากปรับ Payout ratio เป็น 49.3% ในปี 2024

ผลการดำเนินงานท้าทายมากขึ้นจากเศรษฐกิจชะลอตัว

• เรามีมุมมองเป็นกลางหลังการประชุมนักวิเคราะห์ และสมมติฐานของเรายังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคาร ดังนั้น เราคงคาดการณ์กำไรสุทธิตามเดิม โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 1% ในปี 2025 เพราะสำรองหนี้ฯ ลดลง และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้น คาดกำไรจะปรับเพิ่มขึ้นราว 2% ในปี 2026

• ในเบื้องต้น คาดกำไรสุทธิใน 2Q25 จะสามารถปรับเพิ่มขึ้น YoY หนุนจากสำรองหนี้ และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง แต่กำไรอาจทรงตัว หรือปรับลดลงเล็กน้อย QoQ จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับลดลง แม้สำรองหนี้ฯ จะปรับลดลง และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ NPA จะลดลง