KKP (BUY : Fair Price : Bt 74.00) : ROE เป็นขาขึ้น และเงินปันผลสูง
**ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จาก "ถือ" ปรับมูลค่าพื้นฐานเป็น 74 บาท (เดิม 68 บาท) ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 9%, Terminal growth 2%) อิงจาก 0.93x PBV’26E สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อเสถียรภาพการเติบโตของกำไร การบริหารเงินกองทุนที่มีประสิทธิภาพผลักดันให้ ROE ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องที่ 8.7%-9.0% ในปี 2025-27 สวนทางกับกลุ่มธนาคารที่คาด ROE จะเริ่มอ่อนตัวลงในปี 2026 รวมทั้งคาดผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 6.7-7.4% ในปี 2025-27 มุมมองระยะสั้น คาดกำไรใน 4Q25 ปรับลดลง QoQ จากการปรับลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และกำไรจากเครื่องมือการเงิน FVTPL แต่กำไรทรงตัว YoY เพราะการขาดทุนรถยึดที่ลดลงจะช่วยชดเชยผลกระทบจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงได้ **
NIM มีเสถียรภาพมากขึ้น คาดแนวโน้มขยายตัวในปี 2026
• การขยายสินเชื่อยังไม่ใช่กลยุทธ์หลักในระยะสั้น หลังจากสินเชื่อเดือน ต.ค. ปรับลดลงต่อเนื่อง 1.2% MoM โดยคาดว่าสินเชื่อใน 4Q25 จะปรับลดลงใกล้เคียง 3Q25 ที่ราว 3% QoQ ส่งผลให้ในปี 2025 ปรับลดลง 8.5% YoY และคาดสินเชื่อจะยังปรับลดลงต่อเนื่อง 2% ในปี 2026
• KKP ยังให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนการเงิน ควบคุมหนี้เสีย และเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมเพื่อชดเชยผลกระทบจากรายได้ดอกเบี้ยรับที่ลดลงล้อกับสินเชื่อ เราคาดว่าต้นทุนการเงินใน 4Q25 ที่ลดลงทำให้ NIM ทรงตัว QoQ ที่ราว 3.95-4.00% แต่ในภาพทั้งปี 2025 NIM จะยังคงปรับลดลงที่ 4% จาก 4.2% ในปี 2024
• เราคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือ 1.25% ในวันที่ 17 ธ.ค. และมีโอกาสจะปรับลดเพิ่มอีก 1 ครั้งใน 1H26 หลังจากเศรษฐกิจไทยในปี 2026 แนวโน้มเติบโตต่ำกว่า 2% ยังต้องการแรงสนับสนุนจากนโยบายผ่อนคลาย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในประเทศอยู่ในระดับต่ำ
• เราคาดว่าการฟื้นตัวของ NIM ชัดเจนมากขึ้นใน 2H26 จากต้นทุนการเงินที่ลดลงเป็นหลัก เพราะสินเชื่อที่อ่อนแอยังเป็นข้อจำกัดต่อการฟื้นตัวในระยะสั้น ดังนั้น คาด NIM จะปรับเพิ่มขึ้นราว 5-10 bps เป็นราว 4.05-4.10% ในปี 2026
**ROE เพิ่มต่อเนื่องในปี 2026 **
• เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025 จะเติบโต 11% และขยายตัวต่อเนื่อง 5%-4% ในปี 2026-27 หนุนจาก (1) ต้นทุนการเงินลดลง (2) สำรองหนี้ฯ ลดลง (3) การขาดทุนรถยึดลดลง และ (4) รายได้จากค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ Wealth management เพิ่มขึ้น
• คาดกำไรใน 4Q25 ปรับลดลง QoQ จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง และกำไรสุทธิจากเครื่องมือการเงิน FVTPL ลดลง แต่กำไรทรงตัว YoY เพราะการขาดทุนรถยึดที่ลดลงจะช่วยชดเชยผลกระทบจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงได้
• การบริหารเงินกองทุนที่มีประสิทธิภาพ ผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนมีส่วนช่วยใน และนโยบายการจ่ายเงินปันผลสูงเป็นปัจจัยหนุนให้ ROE ปรับสูงขึ้น
• เราปรับ ROE เพิ่มเป็น 8.7-9.0% ในปี 2025-27 สะท้อนความสามารถทำกำไรที่ดีขึ้น ความยืดหยุ่นในการรักษาการจ่ายเงินปันผลสูง โดยคงอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 68% ในปี 2025-27