CREDIT (HOLD : Fair Price : Bt 20.00) : NIM อ่อนแอฉุดการฟื้นตัวอ่อนแอกว่าคาด
**เราปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น "ถือ" เพราะการฟื้นตัวของกำไรที่อ่อนแอกว่าคาด และความกังวลต่อการเติบโตในสินเชื่อไมโครเอสเอ็มอีที่มีความเปาะบางต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจอาจกระทบคุณภาพสินเชื่ออ่อนแอ โดยปรับลดมูลค่าพื้นฐานลงเหลือ 20.00 บาท จาก 24.00 บาท คำนวณด้วยวิธี Gordon growth model (ROE 14%, Long term growth 2%) อิง 0.95x PBV’25E และ 6.8x PE’25E และคาดผลตอบแทนเงินปันผลที่ 3.2% ในปี 2025 เราคาดว่า NIM ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้นกดดันให้อัตราการเติบโตของกำไรฟื้นตัวอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ เราคาดกำไรสุทธิในปี 2025 จะแค่ทรงตัว YoY และ ROE อยู่ในวัฏจักรลดลงต่อเนื่อง และเรายังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในระยะสั้น ด้านกำไรสุทธิใน 1Q25 อยู่ที่ 906 ล้านบาท (+101% YoY, -24% QoQ) ด้าน NPL ratio ทรงตัวที่ 4.4% และ Coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 150.7% **
การประชุมนักวิเคราะห์
• แม้มีความท้าทายจากปัจจัยภายนอก และโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ที่ส่งผลต่อรายได้ดอกเบี้ย และ NIM อ่อนแอลง CREDIT ยังคงเป้าหมายการเงินในปี 2025 ตามเดิม ประกอบด้วย (1) สินเชื่อเติบโต 2 หลัก (1Q: +12.4% YoY) (2) NIM ที่ 8.5%-9.0% (1Q: 7.9%) (3) Cost to income ratio ทรงตัว YoY จาก 39.9% ในปี 2024 (1Q: 42.2% YoY) (4) Credit cost ที่ 2.50%-3.00% (1Q: 2.2%) (5) NPL ratio <4.5% (1Q: 4.4%) และ (6) ROE ที่ 17% - 22% (2024: 15.4%)
• ธนาคารปรับลดการใช้สิทธิขอรับเงินค่าประกันกับทางบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.). ในปี 2025 เหลือ 2.8-2.9 พันลบ. จาก 3.3-3.5 พันลบ. เพราะสามารถควบคุมหนี้เสียได้ดีกว่าคาด
• สินเชื่อไมโครเอสเอ็มอียังมีโอกาสการขยายตัวได้อีกมาก เพราะ CREDIT มีฐานลูกค้าเพียง 8% ของสินเชื่อไมโครเอสเอ็มอีทั้งหมดในประเทศราว 1.39 ล้านล้านบาท โดยใน 1Q25 ได้ออกโครงการใหม่เพื่อกระตุ้นการเติบโต "สินเชื่อ SME กล้าสู้" และ "สินเชื่อเถ้าแก่ใหญ่" นอกจากนี้ ได้ขยายเพดานวงเงินให้สินเชื่อไมโครเอสเอ็มอีจาก 30 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท เพราะลูกค้ามีความต้องการสูงขึ้น
• NIM ที่ปรับลดลงราว 80 bps YoY เหลือ 7.9% ใน 1Q25 เกิดจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และผลจากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายลดลงช้า เพราะเงินฝากประจำจะปรับลดลงช้ากว่าสินเชื่อ แต่ในอนาคตแนวโน้มต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายจะปรับลดลงเร็วขึ้น
NIM อ่อนแอกว่าคาดกดดันการฟื้นตัวของกำไรในปี 2025
• เราปรับลดส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ลง 70/60 bps ที่7.8%/7.9% ในปี 2025-26 หลังจาก NIM ใน 1Q25 อ่อนแอกว่าคาด และแนวโน้มอ่อนแอลงต่อเนื่องจากวัฐจักรดอกเบี้ยลดลง เราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลดลง 7%/10% ในปี 2025-26 โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025 จะทรงตัว YoY ในปี 2025 และปรับเพิ่มขึ้น 7% ในปี 2026
• ฐานกำไรที่เติบโตจำกัด และการต้องรักษาระดับเงินกองทุนสูงเพื่อสนับสนุนการเติบโตสินเชื่อ เราคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลเพียง 20% ทำให้คาดว่า ROE จะลดลงต่อเนื่องที่ 14.8%/14.2% ในปี 2025-26 ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารที่ 17-22%