CPF (BUY : Fair Price : Bt 33.00) : 3Q25 สุกรราคาร่วงแรง

Published
Share this article:

เราว่าผลประกอบการงวด 3Q25 ของ CPF จะได้รับผลกระทบ อย่างมากหลังจากราคาเนื้อสัตว์มีการปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงในช่วงเดือนสุดท้ายของไตรมาสจากผลกระทบของการขาดแคลนแรงงานกัมพูชาและปัญหาภัยธรรมชาติในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะราคาสุกรในประเทศที่ลดลงกว่า 10%YoY และ 27%QoQ มาอยู่ที่ 64 บาท/กก.อย่างไรก็ตามด้วยต้นทุนที่ลดลงโดยเฉพาะข้าวโพดและกากถั่วเหลืองทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของ CPF ยังอยู๋ในระดับที่ดีได้ ทั้งนี้ CPF คาดว่าราคาเนื้อสัตว์จะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกครั้งในเดือน พ.ย. หลังเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวและปัญหาโรคระบาดเริ่มคลี่คลาย รวมแล้วหากกำไรสุทธิออกมาตามคาดจะทำให้กำไรสุทธิในช่วง 9M25 คิดเป็นสัดส่วน 76% ของกำไรสุทธิทั้งปีที่เราคาดไว้ที่ 31,989 ล้านบาท

คาดกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 5,308 ล้านบาท (-27%YoY,-49%QoQ)

• คาดผลประกอบการงวด 3Q25 ของ CPF จะได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อสัตว์ที่อ่อนตัวลงทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม แต่ได้รับผลดีจากต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับที่ดีได้ โดยเราคาดกำไรสุทธิที่ 5,308 ล้านบาท (-27%YoY,-49%QoQ)

• รายได้คาดที่ 141,288 ล้านบาท (-1%YoY,-4%QoQ) ได้รับแรงกดดันจากราคาเนื้อสัตว์ที่ลดลงจากหลายสาเหตุเช่นการขาดแคลนแรงงานกัมพูชาในโรงเชือดสุกรและภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ในประเทศไทย ส่วนที่เวียดนามมีผลกระทบจากโรคระบาดที่ทำให้เกษตรกรมีการเร่งนำสุกรออกขายก่อน โดยราคาสุกรในประเทศไทยที่ 64 บาท (-10%YoY,-27%QoQ) ราคาไก่ที่ 39 บาท/กก. (-8%YoY,-2%QoQ) ส่วนราคาที่เวียดนามอยู่ที่ 59,000 ดอง/กก. (-4%YoY,-14%QoQ) แรงกดดันอีกประการคือธุรกิจอาหารสัตว์ที่ลดลงตามต้นทุน

• กำไรขั้นต้นคาดที่ 15.4% ทรงตัวจากปีก่อนแต่ลดลงจาก 19.8% ใน 2Q25 ได้รับผลดีจากต้นทุนที่ลดลงอย่างเช่นราคาข้าวโพด (-15%YoY,-6%QoQ) และราคากากถั่วเหลืองที่ลดลง 28%YoY และ11%QoQ ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่ 12,716 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อนแต่ลดลง 3%QoQ

• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดที่ 3,312 ล้านบาท (-9%YoY, -8%QoQ) ลดลงจากผลกระทบของธุรกิจสุกรที่ประเทศจีนหลังราคาปรับตัวลดลงเหลือเพียง 13.8 หยวน/กก. (-30%YoY,-8%QoQ)

**ลุ้นราคาสุกรฟื้นปลายปี **

แนวโน้มราคาสุกรในประเทศไทยคาดว่าเดือน ต.ค. ยังคงทรงตัวในระดับต่ำกว่า 60 บาท/กก. เนื่องจากถูกกระทบจากเทศกาลกินเจและปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตามในช่วง พ.ย.-ธ.ค.คาดว่าด้วยการเข้าสู่ช่วง High Seasons ของการท่องเที่ยวจะทำให้ความต้องการบริโภค ฟื้นและหนุนให้ราคากลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เช่นเดียวกับที่เวียดนามคาดว่าหลังจากนี้ราคามีโอกาสกลับมาปรับตัวขึ้นได้เพราะปริมาณสุกรที่หายไปจากระบบหลังมีโรคระบาดเกิดขึ้น

**กำไรทั้งปียังต้องลุ้น แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” **

หากผลประกอบการออกมาตามคาดกำไรสุทธิในช่วง 9M25 คิดเป็นสัดส่วน 76% ของกำไรทั้งปีที่เราคาดไว้ที่ 31,989 ล้านบาท (+64%YoY) ทำให้เรายังต้องรอติดตามว่าในช่วง 4Q25 ราคาเนื้อสัตว์จะฟื้นตัวได้ตามคาดหรือไม่ อย่างไรก็ตามแม้ราคาขายเนื้อสัตว์จะลดลงแต่ด้วยผลดีจากต้นทุนที่ลดลงมากกว่าจึงยังทำให้ในแง่ความสามารถในการทำกำไรยังอยู่ในระดับที่ดีได้ ดังนั้นเราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” เช่นเดิมและประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 33 บาท (9XPER’25E)