COMMERCE (OVERWEIGHT : TOP PICK : CRC) : Easy e-Receipt อาจไม่หนุน SSSG เท่าปีก่อน
มาตรการ Easy e-Receipt ปี 2025 วงเงินลดหย่อนสูงสุด 50,000 บาท เท่ากับปี 2024 อาจไม่หนุน SSSG ด้วยเงื่อนไข 20,000 บาท ต้องเป็นสินค้า OTOP, วิสาหกิจชุมชน, วิสาหกิจเพื่อสังคม แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่ามาตรการเงิน 10,000 เฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท ที่ออกมาในช่วงใกล้เคียงกันจะหนุนให้ SSSG กลุ่มค้าปลีกยังขยายตัวสดใสได้ต่อเนื่อง เรายังคงแนะนำ Overweight กลุ่มค้าปลีก โดยเลือก CRC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมากที่สุด
มาตรการลดหย่อนภาษี Easy e-Receipt ปี2025 ต่างกับ ปี2024 แค่ไหน
• มาตรการ Easy e-Receipt ปี 2025 วงเงินลดหย่อนสูงสุด 50,000 บาท เท่ากับปี2024 แต่วันที่เริ่มโครงการแตกต่างกัน รอบปี2024 เริ่มต้น ม.ค. ช่วงวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2024 เทียบกับรอบปี 2025 เริ่มกลางเดือน ม.ค. ช่วงวันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2025 นอกจากนี้ยังแบ่งวงเงินเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก วงเงิน 30,000 บาท ใช้ชื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) แบบเต็มรูปเป็นหลักฐาน หรือผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมีใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เป็นหลักฐาน ส่วนที่2 วงเงิน 20,000 บาท ใช้ซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP), สินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชน, สินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคม
• ดังนั้น SSSG ของบริษัทที่ขายสินค้า OTOP ไม่มาก อาจได้รับประโยชน์ลดลงจากปีก่อน แต่เราคาดว่ากลุ่มร้านค้าปลีกสินค้าจำเป็น และห้างที่มีการขายสินค้า OTOP จะยังคงได้รับประโยชน์ ได้แก่ CRC, CPALL, CPAXT, BJC แต่เรามองว่ามีโอกาสที่ HMPRO จะได้แรงหนุนลดลงจากวงเงินที่ต่ำลงจากปีก่อน
**Case study: มาตรการลดหย่อนภาษี Easy e-Receipt **
• Case ปี 2023 จะเห็นได้ว่า SSSG ของบริษัทส่วนใหญ่ในกลุ่มค้าปลีกในช่วง 1Q23 ปรับตัวดีขึ้น YoY โดยบริษัทที่โดดเด่นที่สุดคือ HMPRO, CPALL, CRC จากวงเงินลดหย่อนที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10,000 บาท ตามตารางหน้าที่ 3
• Case ปี2024 จะเห็นได้ว่า SSSG ของบริษัทส่วนใหญ่ในกลุ่มค้าปลีกในช่วง 1Q24 ปรับตัวดีขึ้น YoY โดยบริษัทที่โดเด่นที่สุดคือ CPAXT, CPALL, CRC และ HMPRO จากวงเงินลดหย่อนที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10,000 บาท ประกอบกับไม่สามารถใช้เติมน้ำมันได้เหมือนปี 2023 ตามตารางหน้าที่ 3
เลือก CRC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีก
เราคาดว่า SSSG กลุ่มค้าปลีกสินค้าจำเป็นหรือกลุ่มค้าปลีกอาหารยังเป็นบวกได้ 1%-3% ปี 2025 หนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว การบริโภคภาคเกษตรที่ดีขึ้นใน 2H25 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เราจึงคงคำแนะนำ Overweight กลุ่มค้าปลีก โดยเลือก CRC (มูลค่าพื้นฐาน 40.00 บาท) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม แต่เรามีมุมมองระมัดระวังต่อการลงทุนในบริษัทกลุ่มสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้าน เนื่องจากเราคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีทิศทางการชะลอตัว ขณะที่ปัจจัยบวกจากการเพิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐมีทิศทางดีขึ้นจากปีก่อนแต่คาดว่าไม่สามารถชดเชยกำลังกลุ่มสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านที่มีทิศทางซะลอตัวตามภาคอสังหา หากไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาแบบที่มีนัยยะสำคัญ เราแนะนำชะลอการลงทุนหุ้นในสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้าน