CENTEL (BUY : Fair Price : Bt 38.00) : คาดกำไรสุทธิ 1Q25 อ่อนตัวจากค่าใช้จ่ายโรงแรมที่สูง
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 38 บาท คาดกำไรปกติใน 1Q25 เติบโตที่ 774 ล้านบาท (+3% YoY, +48% QoQ) จากแนวโน้มการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมที่ไทยและญี่ปุ่นเติบโตแข็งแกร่ง แม้ว่าโรงแรมที่มัลดีฟส์จะอ่อนแอจากการแข่งขันที่สูงก็ตาม ทั้งนี้ ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัว และค่าใช้จ่ายช่วงต้นโรงแรมแห่งใหม่ในมัลดีฟส์ที่สูง คาดกดดันให้กำไรสุทธิอ่อนตัว YoY อยู่ที่ 724 ล้านบาท (-4% YoY, +9% QoQ) สำหรับแนวโน้มใน 2Q25 คาดว่ากำไรปกติจะชะลอตัว QoQ จากปัจจัยฤดูการ ขณะที่กำไรจะเติบโต YoY จากฐานต่ำ
คาดกำไรปกติใน 1Q25 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ
คาดกำไรปกติใน 1Q25 อยู่ที่ 774 ล้านบาท (+3% YoY, +48% QoQ) โดยกำไรเติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่การเติบโต YoY หนุนจาก 1) รายได้ธุรกิจโรงแรม คาดเติบโตอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท (+6% YoY, +18% QoQ) หนุนจาก RevPar สูงขึ้น +1% YoY โดยเฉพาะในประเทศไทย (+4% YoY) และญี่ปุ่น (+8% YoY) แม้มัลดีฟส์จะอ่อนตัว (-41% YoY) จากการแข่งขันสูง และภาระค่าใช้จ่ายในช่วงต้นของการเปิดให้บริการโรงแรมแห่งใหม่ ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร คาดทำรายได้อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท (+2% YoY, -4% QoQ) โดยมียอดขายจากสาขาเดิม (SSS) ทรงตัว (+1 % YoY) และยอดขายรวมทั้งหมด (TSS) เติบโตเล็กน้อย (+2% YoY) และ 2) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดทรงตัวอยู่ที่ 44.8% (-1 ppts YoY, +4 ppts QoQ) ทั้งนี้คาดกำไรสุทธิถูกกดดันอยู่ที่ 724 ล้านบาท (-4% YoY, +9% QoQ) จากการรับรู้ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดให้บริการโรงแรมมัลดีฟส์แห่งใหม่ที่ 50 ล้านบาท
คาดผลการดำเนินงานใน 2Q25 เติบโต YoY จากฐานต่ำ
คาดกำไรปกติใน 2Q25 อ่อนตัว QoQ ด้วยปัจจัยฤดูกาล แต่ปรับตัวสูงขึ้น YoY จาก 1) ฐานต่ำใน 2Q24 ที่ 168 ล้านบาท 2) ยอดจองห้องพักล่วงหน้าที่ยังเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี YoY และ 3) คาด RevPar เติบโต โดยได้รับอานิสงค์จาก World Expo 2025 ที่โอซาก้า ช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคม 2025
เป้าหมาย และความท้าทายในปี 2025
• ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ธุรกิจโรงแรมในปี 2025 ที่ 23% YoY ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร SSSG โตที่ 3-5% ด้วยงบการลงทุนภายใน 3 ปีตั้งอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งปี 2025 กำหนดอยู่ที่ 8 พันล้านบาท แบ่งเป็น 1) ปรับปรุงโรงแรม 2 แห่ง (Centara Grand Krabi และ Centara Grand Huahin) 5 พันล้านบาท โดยมีกำหนดให้บริการเต็มรูปแบบอีกครั้งในปี 2027 2) ขยายสาขาร้านอาหารโต 4-5% และ 3) เข้าซื้อร้านอาหารใหม่ 2 แบรนด์ด้วนเงินลงทุน 2 พันล้านบาท
• ความท้าทายในปี 2025 1) จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมชะลอตัว (-8% YoY) โดยเฉพาะชาวจีน (-30% YoY) และ 2) ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย กดดันอุปสงค์การเดินทาง
คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ประเมินมูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ 38 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 7% และ TG 2.5% โดยมีภาระดอกเบี้ยต่อเงินทุน (IBD/E) ที่ต่ำ 0.8x และมูลค่าซื้อขายน่าสนใจ EV/EBITDA ที่ 10x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ 16x บน Bloomberg Consensus