PI : BBL (BUY : FAIR PRICE : Bt184.00) " ใหญ่และแกร่ง "
เริ่มต้นบทวิเคราะห์ใหม่ด้วยคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 184 บาท เราเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นสำหรับกลุ่มธนาคาร เพราะเชื่อว่า BBL มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่มากพอต่อการรับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ศักยภาพการทำกำไรของธนาคารก็จะปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ด้วยคาดการณ์ว่ากำไรจะโต 16% ในปี 2023 (ค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 11.5%) และมีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่สูงขึ้น ด้านราคาหุ้นก็ค่อนข้างมีเสถียรภาพมากกว่าผู้เล่นอื่น ด้วยมูลค่าหุ้นที่ยังไม่แพงในระดับ 0.6x PBV’23E
คาดผลประกอบการแข็งแกร่งในไตรมาส 1/23
• แม้สินเชื่อไม่ค่อยโต ขณะที่มีต้นทุนการเงินเพิ่มเติมจากค่าธรรมเนียมกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) และการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่สูงขึ้น แต่เราคาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาแข็งแกร่งที่ 8.0 พันล้านบาท โต 13% YoY (+6% QoQ) การเติบโต YoY จะได้แรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่สูงขึ้นจากอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ขยายตัวขึ้น ส่วนการเติบโตเชิง QoQ เป็นผลจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (non-NII) ที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่ลดลง
• คาดการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาส 1/23 จะลดลง 0.5% QoQ ฉุดจากการชำระหนี้ที่มีเข้ามา เราเชื่อว่าความต้องการสินเชื่อจะฟื้นตัวช่วงไตรมาสหน้า และคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 2023 จะอยู่ที่ 5% (เป้าหมายผู้บริหารที่ 4%-6%)
• ด้วยการที่ BBL เน้นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อระหว่างประเทศเป็นหลัก (68% ของสินเชื่อรวม) และมีสำรองหนี้ฯ เพียงพอ จึงทำให้ธนาคารยังมีคุณภาพสินเชื่อที่ดีท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก คาดอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) จะเพิ่มเป็น 3.3% จากฐานสินเชื่อที่ลดลง และคาดถึงอัตราส่วนควาสามารถชำระค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (LLC ratio) ที่แข็งแกร่งระดับ 262% เพียงพอต่อการรับมือกับความไม่แน่นอน
แนวโน้มการเติบโตมั่นคง
• แม้ BBL มีการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่เพียงพอต่อการรับมือกับความไม่แน่นอน แต่เรามีสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่สูงขึ้นเป็น 115bp สำหรับปี 2023 สูงกว่าแนวทางของ BBL ที่ 100bp เพราะคำนึงถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่อาจบั่นทอนคุณภาพสินเชื่อของธนาคารลงได้
• แม้เราจะมีสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่รัดกุม แต่ก็ยังคาดว่ากำไรสุทธิของ BBL จะโต 16% YoY ในปี 2023 สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่คาดโต 11.5% ขณะที่คาด ROE จะปรับเพิ่มเป็น 6.6%/7.2% ในปี 2023-24 จาก 5.9% ในปี 2022
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 183 บาท
เริ่มต้นบทวิเคราะห์ใหม่ด้วยคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 184 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 6.9% อัตราการเติบโต 2%) อิง 0.68x PBV’23E หรือ -0.5SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี คำแนะนำซื้อสะท้อน 1) งบดุลที่ยืดหยุ่นด้วยอัตราการตั้งสำรองหนี้ฯ ระดับสูงและฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน 2) แนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิที่มั่นคง 3) การเติบโตของ NIM ในวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น และ 4) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง