AMATA (BUY : Fair Price : Bt 33.60) : 3Q25 เริ่มโอนชลบุรี 2 หนุนกำไรโต

Published
Share this article:

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” มีปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการงวด 3Q25 ที่คาดเห็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 28%YoY,603%QoQ มาอยู่ที่ระดับ 983 ล้านบาท ได้รับผลดีจากการเริ่มโอนนิคมอมตะชลบุรี 2 (บ้านบึง) ที่ทำให้มียอดโอนรวมในไตรมาสนี้กว่า 676 ไร่ เทียบกับ 452 ไร่ใน 3Q24 และ 2Q25 ขณะที่การขายที่ดินทำได้อีก 242 ไร่ ทำให้รวมแล้วในช่วง 9M25 AMATA มียอดขายเพียง 990 ไร่ ส่งผลให้ผู้บริหารมีการปรับเป้ายอดขายที่ดินลงเหลือ 2,000 ไร่จากเดิม 3,000 ไร่ โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่คาดว่าจะขายได้ในมืออีกกว่า 700 ไร่ ทำให้เป้าทั้งปีที่ระดับดังกล่าวยังมีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามในแง่ผลประกอบการช่วง 1 ปีข้างหน้ายังไม่ได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจาก Backlog ที่รอโอน ณ สิ้น 9M25 ยังมีอยู่กว่า 20,000 ล้านบาท

**คาด 3Q25 กำไรสุทธิ 983 ล้านบาท (+28%YoY,+603QoQ) **

• เราคาดผลประกอบการงวด 3Q25 ของ AMATA จะมีกำไรสุทธิสูงถึง 983 ล้านบาท (+28%YoY,+603%QoQ) ได้รับผลดีจากการเริ่มโอนนิคมอมตะชลบุรี 2 (บ้านบึง) เข้ามากว่า 460 ไร่ และรวมทั้งไตรมาสโอนรวม 676 ไร่ เทียบกับ 452 ไร่ใน 3Q24 และ 171 ไร่ใน 2Q25

• รายได้คาดที่ 4,657 ล้านบาท (+30%YoY,+101%QoQ) การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการขายที่ดินที่เราคาดที่ 3,272 ล้านบาท (+48%YoY,+243%QoQ) ส่วนรายได้สาธารณูปโภคคาดใกล้เคียงปีก่อน ด้านรายได้ค่าเช่าคาดเพิ่มขึ้นตามจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น

• กำไรขั้นต้นรวมคาดที่ 40.8% ดีขึ้นจาก 34.5% ใน 3Q24 เนื่องจากปีก่อนนิคมที่เวียดนามมีกำไรขั้นต้นต่ำกว่าปกติ และ 37.4% ใน 2Q25 เพราะมีการโอนที่ดินที่นิคมชลบุรีเข้ามา ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่ 676 ล้านบาท (+64%YoY,+84%QoQ) เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับยอดการโอนที่ดิน

• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดที่ 219 ล้านบาท (-46%YoY,-9%QoQ) ลดลงมากในกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าเพราะกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง (14 ล้านบาทเทียบกับ 169 ล้านบาทใน 3Q24 และ 43 ล้านบาทใน 2Q25)

• รวมแล้วในช่วง 9M25 เราคาดว่า AMATA จะมีกำไรสุทธิ 1,952 ล้านบาท (+34%YoY) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 66% ของกำไรทั้งปีที่เราคาดไว้ที่ 2,975 ล้านบาท

ยอดขายปีนี้คงไม่ถึง 3,000 ไร่ แต่ยังหวังแตะ 2,000 ไร่

ยอดขายที่ดินในช่วง 3Q25 มีจำนวน 243 ไร่ และรวมในงวด 9M25 มีจำนวน 990 ไร่ ทำให้ทางผู้บริหารมีการปรับเป้าการขายทั้งปีลงจากเดิม 3,000 ไร่ เหลือเพียง 2,000 ซึ่งในปัจจุบันมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างเจรจาในมือแล้วประมาณ 700 ไร่ (ในไทย 500 ไร่ เป็นกลุ่ม Data Center ประมาณ 150-200 ไร่ ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และอีก 200 ไร่เป็นนิคมที่เวียดนาม) ช่วงที่เหลือของปีทางผู้บริหารแจ้งว่ายังมีโอกาสเพิ่มยอดขายให้เป็นไปตามเป้าใหม่ที่คาดไว้ได้

**คงกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิมก่อน หลังยอดโอนเริ่มมา **

แม้กำไรสุทธิในช่วง 9M25 จะคิดเป็นเพียง 66% ของกำไรทั้งปีที่เราคาดไว้ แต่ด้วยยอด Backlog ที่ยังมีกว่า 22,000 ล้านบาท รวมกับการเริ่มโอนทิ่ดินที่นิคมอมตะชลบุรี 2 แล้ว ซึ่งนิคมดังกล่าวมียอดขายสะสมกว่า 1,400 ไร่ ทำให้ยังมีโอกาสที่กำไรทั้งปีเป็นไปตามเป้าที่เราคาดไว้ได้ ส่วนผลกระทบจากการขายที่ต่ำกว่าคาดจะเริ่มเห็นในปี 26 เป็นต้นไป ซึ่งเราอาจจะมีการปรับประมาณการใหม่ในอนาคต รวมแล้วจากปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการ 3Q25 เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 33.6 บาท (13XPER’25E)