7 หุ้นไทยติดแกลม รับไลฟ์สไตล์ LGBTQ+ ที่น่าจับตามอง

Published
Share this article:
banner image

7 หุ้นไทยติดแกลม รับไลฟ์สไตล์ LGBTQ+ ที่น่าจับตามอง

ในยุคที่สังคมเปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น กลุ่ม LGBTQ+ กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในระบบเศรษฐกิจ ด้วยกำลังซื้อที่ทรงพลัง ไลฟ์สไตล์ที่สนุกสนาน ทำให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ จำนวนมาก ที่เฉพาะเจาะจงต่อวิถีชีวิตของกลุ่ม LGBTQ+ ธุรกิจจำนวนมากจึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของชุมชน LGBTQ+ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตและมูลค่าหุ้นของหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ "หุ้นไทยที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม LGBTQ+" เพื่อเป็นแนวทางการลงทุนในเทรนด์โลกที่กำลังมาแรง

LGBTQ+ มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจไทยมากแค่ไหน

งานวิจัยของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ในปี 2025 ประเมินว่าในประเทศไทยมีจำนวนประชากร LGBTQ+ ประมาณ 5.9 ล้านคน หรือคิดเป็น 9% ของประชากรไทยทั้งหมด ซึ่งนับว่าเป็นมีขนาดที่ใหญ๋มาก และมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน คาดว่าชาว LGBTQ+ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในไทยได้มากกว่า 152,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 0.3% ของ GDP ไทยเลยทีเดียว

หุ้นไทยที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเติบโตขึ้นของประชากร LGBTQ+

1. BEAUTY – บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน)

BEAUTY หรือ บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลความงามภายใต้แบรนด์หลักอย่าง Beauty Buffet, Beauty Cottage, และ Beauty Market โดยมีจุดเด่นด้านการออกแบบสินค้าให้มีความทันสมัย หลากหลาย ราคาเข้าถึงง่าย และเหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย

BEAUTY ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม LGBTQ+ และผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองความงามเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกตัวตน นอกจากนี้บริษัทยังขยายช่องทางการจำหน่ายผ่าน อีคอมเมิร์ซ และแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการซื้อสินค้าในยุคดิจิทัล

ด้วยเครือข่ายร้านค้าปลีกจำนวนมาก การพัฒนาแบรนด์ให้สอดคล้องกับความหลากหลายทางเพศ และการปรับตัวเข้ากับตลาดยุคใหม่ BEAUTY ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่องจากเทรนด์ความงามและการยอมรับความหลากหลายทางสังคม

2. SPA – บริษัท สปา อะโกร อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน)

SPA หรือ บริษัท สปา อะโกร อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านสุขภาพและความงามแบบครบวงจร ภายใต้แบรนด์ชั้นนำอย่าง Let’s Relax, HARNN, และ VISAARIN ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองและประสบการณ์ด้าน Wellness ระดับพรีเมียม

ด้วยจุดแข็งในการวางตำแหน่งแบรนด์ที่ชัดเจน SPA สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง รวมถึงกลุ่ม LGBTQ+ ที่มีแนวโน้มใช้จ่ายกับบริการดูแลสุขภาพและความงามอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่ และออกแบบบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalized Experience) ได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ SPA ยังมีแผนการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยมุ่งเป้าตลาดที่เปิดรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ส่งผลให้ SPA เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตตามกระแสความใส่ใจสุขภาพและการยอมรับในความหลากหลายทางเพศทั่วโลก

3. AAV – Asia Aviation (สายการบินไทยแอร์เอเชีย)

AAV หรือ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทแม่ของสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ (Low-Cost Airline) ชั้นนำของไทย ที่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย ด้วยจุดเด่นด้านราคาที่เข้าถึงได้ การให้บริการตรงเวลา และเครือข่ายเส้นทางที่ครอบคลุม

ไทยแอร์เอเชียมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่หลากหลายและเป็นมิตรกับทุกกลุ่มผู้โดยสาร โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่ม LGBTQ+ ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการเดินทางและเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ สายการบินยังมีการจัดแคมเปญที่แสดงจุดยืนในความเท่าเทียม เช่น การร่วมสนับสนุนเทศกาล Pride และกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศ

ด้วยศักยภาพในการฟื้นตัวหลังโควิด-19 และแนวโน้มการท่องเที่ยวที่กลับมาเติบโต AAV ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีโอกาสได้รับอานิสงส์จากเทรนด์การเดินทางและไลฟ์สไตล์ที่เปิดกว้างมากขึ้นในยุคปัจจุบัน

4. KAMART– บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน)

KARMART หรือ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายและทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและความงามหลากหลายแบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์เรือธงอย่าง Cathy Doll ที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ ด้วยจุดเด่นด้านดีไซน์ทันสมัย ราคาจับต้องได้ และตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ ที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกตัวตนผ่านความสวยงาม

คาร์มาร์ทยังสร้างความแตกต่างด้วยแคมเปญที่เน้นแนวคิด “Be Yourself” พร้อมดึง Influencer LGBTQ+ มาเป็นตัวแทนแบรนด์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังพัฒนาเครื่องสำอางแนว Genderless ที่ใช้ได้ทุกเพศ เช่น คุชชั่น รองพื้น และบิวตี้ไอเท็มที่เข้าถึงง่าย และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่

คาร์มาร์ทจึงไม่ใช่แค่แบรนด์ความงาม แต่เป็นแบรนด์ที่สะท้อนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับในความเป็นตัวเองอย่างแท้จริง

5. MAJOR – บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)

MAJOR หรือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์หลักอย่าง Major Cineplex, Esplanade, Quartier CineArt และ Mega Cineplex โดยมีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีภาพและเสียงที่ทันสมัย รวมถึงประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ครบวงจรและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม

MAJOR ให้ความสำคัญกับความหลากหลายของคอนเทนต์ รวมถึงการนำเสนอภาพยนตร์แนว LGBTQ+ ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชมเฉพาะทาง โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ ที่มองโรงภาพยนตร์ไม่เพียงเป็นสถานที่ดูหนัง แต่ยังเป็นพื้นที่แสดงออกและสร้างคอมมูนิตี้ทางวัฒนธรรม

นอกจากนี้ MAJOR ยังจัดกิจกรรมและแคมเปญที่สนับสนุนความเท่าเทียมและความหลากหลาย ส่งผลให้แบรนด์เป็นที่จดจำและได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคกลุ่ม LGBTQ+ อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตจากเทรนด์ความหลากหลายและไลฟ์สไตล์ยุคใหม่

6. GRAMMY – บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)

GMM Grammy หรือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจบันเทิงครบวงจรของไทย ครอบคลุมทั้งด้าน เพลง ละคร ซีรีส์ คอนเสิร์ต และบริหารศิลปิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ซีรีส์วาย (BL Series) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั้งกลุ่มผู้ชมชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม LGBTQ+ และแฟนคลับสายวัฒนธรรมป๊อปเอเชีย

แกรมมี่ประสบความสำเร็จในการผลิตซีรีส์วายระดับปรากฏการณ์ เช่น 2gether The Series, Not Me, และ Our Skyy ที่ไม่เพียงสร้างเรตติ้งสูง แต่ยังสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์, สปอนเซอร์, คอนเสิร์ต, สินค้าแฟนมีต และกิจกรรมแฟนคลับอย่างต่อเนื่อง

ด้วยการเข้าใจความต้องการของผู้ชมที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศและตัวตน GMM Grammy จึงกลายเป็นแบรนด์บันเทิงที่เชื่อมโยงกับกลุ่ม LGBTQ+ อย่างลึกซึ้ง และยังคงเดินหน้าพัฒนาคอนเทนต์ที่ inclusive และขยายฐานแฟนคลับในระดับสากล ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่เติบโตตามเทรนด์วัฒนธรรมบันเทิงใหม่ของโลกยุคปัจจุบัน

7. KLINIQ - บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน)

KLINIQUE หรือ THE KLINIQUE เป็น คลินิกเสริมความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัยระดับไฮเอนด์ในประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดูแลการยกกระชับ ปรับรูปหน้า และลดริ้วรอย ด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานสากล (US FDA / ยุโรป) เช่น Ulthera SPT+, Thermage FLX, Coolsculpting, VASER และเลเซอร์ YAG

เน้นการรักษาแบบ Personalized ตอบโจทย์ปัญหาผิวและรูปร่างทุกช่วงวัย เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและสอดคล้องกับตัวตนของผู้รับบริการ

ได้รับรางวัลระดับท็อป เช่น Asia‑Pacific Highest Achiever for Ultherapy, Top ThermageFLX Authentic Clinic, เหนือสุดใน Merz Filler และได้รับการรับรองจาก AACI

คลินิกมีหลายสาขาใจกลางกรุงเทพฯ เช่น สยามสแควร์ และเซ็นทรัลเวิลด์ บรรยากาศทันสมัย สะอาด และมีชื่อเสียงจากเซเลบริตี้ เช่น “อั้ม พัชราภา” ที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

ด้วยจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญ ทีมแพทย์มืออาชีพ และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย KLINIQUE จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของผู้ที่มองหาคลินิกความงามที่เน้นผลลัพธ์และปลอดภัยอย่างแท้จริง

อย่าพลาดโอกาส ลงทุนใน หุ้นไทย ที่น่าจับตามอง ลงทุนได้แล้ววันนี้ที่แอป Pi Financial

คำเตือน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

About Author

profile icon
Pi Content Team
Pi Securities Public Company Limited