MINT (BUY : Fair Price : Bt 36.00) : กำไรปกติคาดเติบโต YoY
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 36 บาท โดยเรามีมุมมองเป็นบวกต่อกำไรจากการดำเนินงานใน 3Q24 คาดอยู่ที่ 2.6 พันล้าน (+16% YoY, -18% QoQ) จาก 1) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 46.2% (-0.7 ppts YoY, +0.7 ppts QoQ) จากการเติบโตของอัตรารายได้ต่อห้องทั้งหมด (RevPar) ในยุโรป 2) อัตราการเข้าพัก (Occupancy) ที่สูง 72% และ 66% ในยุโรป และประเทศไทย ตามลำดับ และ 3) รายได้อ่อนตัว QoQ จากฐานที่สูงใน 2Q24 อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ใน 3Q24 มีรายการพิเศษที่สูง (ขาดทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากสัญญาอนุพันธ์) กดดันกำไรสุทธิหดตัวต่ำทั้ง YoY และ QoQ คาดอยู่ที่ราว 421 ล้านบาท (-80% YoY, +85% QoQ)
คาดกำไรปกติ 3Q24 เติบโต YoY แม้อ่อนตัว QoQ จากฐานสูง
• เรามองว่ากำไรปกติใน 3Q24 มีแนวโน้มเติบโต YoY แต่อ่อนตัว QoQ อยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท (+16% YoY, -18% QoQ) เนื่องจาก 1) ธุรกิจโรงแรมคาดรายได้อยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท (+7% YoY, -6% QoQ) จากแนวโน้มรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมด (RevPar) เติบโตที่ราว 4 พันบาท (+5% YoY, -10% QoQ) ในขณะที่อัตราการเข้าพักปรับตัวสูงอยู่ที่ 72% และ 2) ธุรกิจอาหารคาดรายได้อยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท (+2% YoY, -3% QoQ) แม้การเติบโตของรายได้ในสาขาเดิม (SSSG) จะยังอ่อนแอ แต่ติดลบน้อยลงใน 3Q24 อยู่ที่ -2.7% จากใน 2Q24 ที่ -2.8%
• คาดรายได้ 3Q24 อยู่ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท (+4% YoY, -7% QoQ) จาก 1) RevPar ในยุโรปที่เติบโต (+9% YoY) บนอัตราเข้าพักที่สูง 72% และ 2) ฐานสูงใน 2Q24 (อานิสงค์จาก UEFA Euro และ Olympic Game)
• อัตรากำไรขั้นต้นปี 3Q24 คาดอยู่ที่ 46% (+0.7 ppts YoY, -0.7 ppts QoQ) แม้อัตราแลกเปลี่ยนจะผันผวน แต่มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นจากการเติบโตของ RevPar ที่สูง +9% YoY และ +12% YoY ในยุโรป และประเทศไทย ตามลำดับ อีกทั้งยังอยู่ในฤดูท่องเที่ยวจวบจนถึงเดือนสิงหาคม
• ในขณะที่กำไรสุทธิ คาดอยู่ที่ 421 ล้านบาท (-80% YoY, -85% QoQ) จากรายการพิเศษผลจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากสัญญาอนุพันธ์ (Mark-to-market) คาดรวมอยู่ที่ประมาณ 2.2 พันล้านบาท
สิ้นสุดฤดูท่องเที่ยวยุโรปของปี 2024 และความท้าทายใน 2025
• เรามองว่าใน 4Q24 กำไรจะเติบโต YoY จากยอดจองที่สูงกว่าปี 2023 แต่อ่อนตัว QoQ จากการท่องเที่ยวในยุโรปที่เริ่มเข้าสู่ Low Season ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3 แต่ด้วยการกระจายธุรกิจโรงแรมในหลายภูมิภาค รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร (คิดเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด) โดย 60% มาจากร้านในประเทศไทย จึงคาดได้รับอานิสงค์ทางอ้อมจากการท่องเที่ยวในประเทสไทย ทดแทนรายได้ที่อ่อนตัวในยุโรปได้บางส่วน
• เราคาดเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปปี 2025 มีความท้าทายหลังจากที่ IMF มีการปรับลด GDP ยูโรโซนลงเหลือเพียง 1.2% ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตของ RevPar กลุ่มธุรกิจโรงแรมในยุโรป
• อย่างไรก็ตาม ด้วยภาระหนี้ที่คาดลดลงตั้งแต่ 4Q24 ตามเป้า IBD/E 0.8x หนุนกำไรปี 2025 มีโอกาสเติบโตจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาที่น่าสนใจ และ Upside ที่สูงถึง 32%
ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2025 ที่ 36 บาท จากการคำนวนด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 9% และ TG 3% โดยมีราคาที่น่าสนใจ EV/EBITDA ที่ 6x และเทียบเท่า PE’24 ที่ 20x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่ราว 16x และ 30x ตามลำดับ