KTB (BUY : Fair Price : 23.80) : งบดุลแกร่ง ROE สูงสุดในกลุ่มธนาคารใหญ่
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ปรับมูลค่าพื้นฐานเหลือ 23.80 บาท โดยกำไรสุทธิใน 3Q24 ออกมาที่ 11.1 พันล้าน (+8% YoY, -0.8% QoQ) งบดุลทรงตัว NPL ratio อยู่ที่ 3.1% และ Coverage ratio แข็งแกร่งที่ 184.1% เรามองว่า KTB จะยังคงโดดเด่นเหนือคู่แข่งใน 4Q24 ที่ปกติธนาคารส่วนใหญ่จะรายงานกำไรลดลง QoQ เพราะค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล แต่การเติบโต YoY ของ KTB จะโดดเด่นกว่าคู่แข่งจากสำรองหนี้ฯ ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลให้กำไรในปี 2024 โตสูง 13% YoY แต่ด้วยวัฎจักรดอกเบี้ยขาลงทำให้แนวโน้มกำไรจะเติบโตชะลอตัว เราคาดว่ากำไรสุทธิขยายตัว 2.3%/5.8% ในปี 2025-26 และ ROE ปรับลดลงจาก 9.9% ในปี 2024 เหลือ 9.4% ในปี 2025-26 สูงสุดในกลุ่มธนาคารใหญ่
กำไรสุทธิใน 3Q24 เติบโต YoY แต่ลดลง QoQ
• กำไรสุทธิใน 3Q24 ตามคาดที่ 11.1 พันล้าน (+8% YoY, -0.8% QoQ) โดยกำไรที่ขยายตัว YoY เนื่องจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น (2) รายได้ค่าธรรมเนียมปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะจากธุรกิจ Wealth Management ส่งผลให้ค่าธรรมเนียม Mutual fund และ Bancassurance เติบโต และ (3) ผลกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี กำไรปรับลดลง QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานปรับสูงขึ้นเป็นหลัก ซึ่งเป็นปกติที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นในช่วง 2H24
• สินเชื่อใน 3Q24 ปรับขึ้นต่ำกว่าคาด 0.1% QoQ ทำให้สินเชื่อใน 9M24 ยังลดลง 0.5% YTD แต่ด้วยปัจจัยฤดูกาลที่มีการใช้จ่ายสูงขึ้นทำให้สินเชื่อใน 4Q24 แนวโน้มเร่งตัวเพิ่มขึ้น และคาดสินเชื่อในปี 2024 จะเติบโต 1% YoY
• คุณภาพสินเชื่อทรงตัวถือเป็นจุดแข็งของธนาคาร NPL ratio ทรงตัว QoQ ที่ 3.1% และ Coverage ratio แข็งแกร่งที่ 184.1%
**ภาระสำรองหนี้ฯ ลดลงลดทอนผลกระทบจาก NIM ที่อ่อนตัว **
• เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q24 จะปรับเพิ่มขึ้น YoY แต่กรณีของ KTB กำไรจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 30%YoY เพราะสำรองหนี้ฯ จะลดลงมาก เพราะธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษเกี่ยวกับลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่ง และกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันที่มีคุณภาพสินเชื่อที่เสื่อมค่าลงใน 4Q23 อย่างไรก็ดี กำไรจะปรับลดลง QoQ เพราะค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล
• เราคาดว่า NIM ลดลงราว 20 bps เหลือราว 3.2% ในปี 2025-26 จากราว 3.36% ในปี 2024 แต่ด้วยการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดี ทำให้ KTB ผ่อนคลายสำรองหนี้ฯ ลง กอปรกับรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตช่วยลดทอนผลกระทบจาก NIM ที่ลดลง เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025-26 จะขยายตัวต่อเนื่อง แต่ในอัตราชะลอตัวที่ 2.3%/5.8% ในปี 2025 จากที่คาดจะเติบโตสูง 13% ในปี 2024
คงคำแนะนำ "ซื้อ" ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 23.80 บาท
คงคำแนะนำ “ซื้อ” จากพื้นฐานแข็งแกร่ง และ ROE สูงสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ แต่ปรับมูลค่าพื้นฐานเหลือ 23.80 บาท (จาก 24.00 บาท) จากสินเชื่ออ่อนแอกว่าคาด ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 9.4%, Terminal growth 2%) อิง 0.72x PBV’25E หรือ -0.25SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี