GLOBAL (BUY : Fair Price : Bt18.00) : มาร์จิ้นขยายตัวหนุนกำไร 4Q23 ดีกว่าคาด

Published
12 February 2024
Share this article:

มีกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 560 ล้านบาท (+6%YoY, +6%QoQ) ดีกว่าที่เราคาด 19% และ BB consensus คาด 10% ผลจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวดีกว่าคาด แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ไตรมาส ขณะที่ยอดขายยังคงลดลง YoY ตามการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ใน 4Q23 ที่ -12.3% จากการบริโภคที่ชะลอตัวลง แม้ว่าจะมียอดขายจากสาขาใหม่ 6 แห่งที่เปิดในช่วง 12เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาหุ้น GLOBAL ปรับตัวลดลง 8% YTD จาก SSSG ที่ลดลง 5%YoY ในเดือนม.ค. 2024 ตามการบริโภคในภาคเกษตรที่อ่อนแอ แต่เราคาดว่า SSSG จะพลิกกลับมาเป็นบวกในช่วง 2H24 หลังงานก่อสร้างฟื้นตัว ด้วยเหตุนี้เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 18.00 บาท (เดิม 16.00 บาท) หลังปรับเพิ่มประมาณการกำไร 4% ในปี2024 เพื่อสะท้อนอัตรากำไรที่ดีกว่าคาด

กำไร 4Q23 ดีกว่าที่เราและตลาดคาด

• ยอดขายใน 4Q23 ที่ 7.5 พันล้านบาท (-9%YoY, +3%QoQ) เนื่องจากคาดว่า SSSG จะติดลบ 12.3% YoY สืบเนื่องจากงานก่อสร้างที่ซะลอตัวและการบริโภคที่ยังคงอ่อนแอโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองเกษตรกรรม

• การขยายสาขา 4Q23 : เปิดสาขาในประเทศ 2 แห่ง ทำให้ ณ สิ้นปี 2023 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 84 แห่ง (จาก 78 แห่งในปี2022 หรือเพิ่มขึ้น 8%YoY) แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 83 สาขา และสาขาในกัมพูชา 1 สาขา

• อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 26.1% ใน 4Q23 จาก 25.9% ใน 3Q23 และ 24.8% ใน 4Q22 สืบเนื่องจากสัดส่วนรายได้ที่เป็นใจ อัตรากำไรกลุ่มสินค้า House brand และสินค้าเหล็กที่ปรับดีขึ้น• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายที่ 18.9% ใน 4Q23 เพิ่มขึ้นจาก 18.6% ใน 4Q22 สืบเนื่องจากยอดขายที่ลดลง บวกกับต้นทุนจากการขยายสาขาใหม่ 2 แห่งในช่วงระหว่างไตรมาส

• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า (JV) ที่ 35 ล้านบาท (+21%YoY, -20%QoQ) ใน 4Q23 ตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น

**รอการเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ **

• คาดยอดขายสาขาเดิมจะพลิกกลับมาเป็นบวกในช่วง 2H24 ตามงานก่อสร้างที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะงานโครงการจากภาครัฐ

• แม้เลื่อนเปิด 2 สาขา (ในประเทศ 1 สาขา และ กัมพูชา 1 สาขา) ในช่วง 4Q23 มาเป็น 1Q24 ทำให้ GLOBAL ขยาย 6 สาขาในปี 2023

• เราคาดขยาย 6 สาขาในปี2024 (5 สาขาในประเทศ และ 1 สาขาที่กัมพูชา) ต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัท เนื่องจากสถานการณ์กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวโดยเฉพาะในต่างจังหวัด เห็นได้จากดัชนีรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวลดลง 2%YoY ในเดือนธ.ค. 2023 ตามปริมาณผลผลิตที่ปรับตัวลดลง

• นอกจากนี้มีสาขาในลาว 7 สาขา พม่า 12 สาขา และอินโดนีเซีย 13 สาขา ณ สิ้นปี2023 และบริษัทมีแผนขยายสาขาใน ลาว 2 สาขา พม่า 1-2 สาขา อินโดนีเซีย 3-4 สาขา ในปี2024

ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” คาดหวังการเพิกจ่ายงบประมาณ

มูลค่าพื้นฐาน 18.00 บาท (17.30 บาทหลังรวมหุ้นปันผล) คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 2.5% เทียบเท่า 29xPE’24E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทยประกาศจ่ายปันผลปี2023 เป็นเงินสด 0.1744 ต่อหุ้น และจ่ายปันผลเป็นหุ้น สัดส่วน 25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล