Pi STOCK UPDATE : CPALL (BUY : FAIR PRICE Bt72.00)

Published
11 August 2023
Share this article:

" กำไรไตรมาส 2/23 แตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ไตรมาส "

กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท ด้วยกำไรปกติที่ 4.5 พันล้านบาท (+47%YoY, +19%QoQ) ดีกว่าที่เราและ Bloomberg consensus คาด 15% หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่บวก 7.9% และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่แข็งแกร่งในธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ปรับเพิ่ม 100bps YoY ช่วยชดเชยผลตอบแทนพนักงาน ค่าไฟฟ้า และต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นได้ ส่วน SSSG ตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวก YoY เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 72.00 บาท

อัตรากำไรแข็งแกร่งหนุนกำไรไตรมาส 2 โต YoY และ QoQ

• กำไรครึ่งแรกปี 2023 คิดเป็น 45% ต่อประมาณการเราในปี 2023

• กำไรก่อนหักภาษี (EBT) จากธุรกิจหลักในไตรมาส 2/23 จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven) (กำไรสุทธิเฉพาะกิจการ 6.1 พันล้านบาท +21% YoY) และมี EBT คิดเป็น 73% ของทั้งหมด ส่วนธุรกิจขายส่งและค้าปลีกคิดเป็น 27% ของ EBT

• SSSG ไตรมาส 2/23 บวก 7.9% เทียบ 8.0% ในไตรมาส 1/23 และ 14.2% ในไตรมาส 2/22 โดย SSSG ที่แข็งแกร่งได้แรงหนุนจากจำนวนลูกค้า/สาขา/วันที่ฟื้นตัวเป็น 995 คน (+8% YoY) จาก 918 คนในไตรมาส 1/23 และ 941 คนในไตรมาส 2/22 ส่วนยอดบิลยังทรงตัว YoY และ QoQ ที่ 84 บาทในไตรมาส 2/23 ยอดขายออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) คิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของยอดขายรวม

• สรุปภาพรวมการขยายกิจการในไตรมาส 2/23: บริษัทเปิดสาขาใหม่ไป 168 แห่ง (+6%YoY) เป็น 14,215 สาขา

• ส่วนแบ่งรายได้จากกลุ่มสินค้าอาหารเพิ่มเป็น 75.5% ในไตรมาส 2/23 จาก 74.5% ในไตรมาส 1/23 และ 73.6% ในไตรมาส 2/22 หนุนจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อากาศที่ร้อน และลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

• อัตรากำไรธุรกิจร้านสะดวกซื้อเพิ่มเป็น 27.1% ในไตรมาส 2/23 จาก 26.1% ในไตรมาส 2/22 และ 26.7% ในไตรมาส 1/23 หนุนจาก 1) อัตรากำไรกลุ่มสินค้าอาหารที่เพิ่มเป็น 26.9% จาก 26.0% ในไตรมาส 2/22 และ 26.4% ในไตรมาส 1/23 หนุนจากการปรับราคาขายขึ้นตามต้นทุนอาหาร ส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้นจากกลุ่มสินค้าอาหารพร้อมทานหนุนจากลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และรายได้ที่สูงขึ้นจากกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มในช่วงหน้าร้อน 2) อัตรากำไรกลุ่มสินค้านอกจากอาหารที่เพิ่มเป็น 27.8% ในไตรมาส 2/23 จาก 26.4% ในไตรมาส 2/22 และ 27.3% ในไตรมาส 1/23 จากสัดส่วนยอดขายที่เป็นใจจากส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้นในกลุ่มสินค้าดูแลส่วนบุคคลและสัดส่วนยอดขายที่ลดลงจากกลุ่มสินค้าบุหรี่

• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายเพิ่มเป็น 20.3% ในไตรมาส 2/23 จาก 20.0% ในไตรมาส 1/23 และ 19.6% ในไตรมาส 2/22 จากค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายการจัดโปรโมชั่นที่สูงขึ้น

"ซื้อ": ภาพรวมธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่แข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง

มูลค่าพื้นฐาน 72.00 บาท อิง 35xPE’23E หรือที่ค่าเฉลี่ย 5 ปี ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ไทย