Pi STOCK UPDATE : AWC (BUY : FAIR PRICE Bt5.90)

Published
11 August 2023
Share this article:

" คาดการเติบโตของกำไรจะกลับมาเร่งตัวขึ้น "

กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 86 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 44% และ 57% ราคาหุ้นลดลงมากกว่า 20% ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเราเชื่อว่าได้สะท้อนปัจจัยลบต่าง ๆ ไปพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นกำไรที่สะดุดตัวลงในช่วง low season และการที่ตลาดไม่ประทับใจกับดีลซื้อ Hotel Plaza Athenee New York ด้วยสิทธิ์ในการใช้แบรนด์ของโรงแรม ขณะที่คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวในไตรมาส 3/23 หนุนจากอัตราการเช่าที่ฟื้นตัว อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ที่มีฐานสูง และการคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ แม้มูลค่าการซื้อขายหุ้น AWC อยู่ที่ 43.0xPE’25E เทียบค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงแรมที่ 23.5x แต่คาดว่า AWC จะให้ผลตอบแทนในแง่ PEG ระยะยาวมากที่สุด เพราะเราคาดว่ากำไรจะโตเฉลี่ยต่อปีที่ 35% ในปี 2023-27

การฟื้นตัวของกำไรที่แผ่วลงในไตรมาส 2/23

• กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท (+45%YoY -21%QoQ) หากไม่รวมกำไรจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ กำไรปกติจะอยู่ที่ 86 ล้านบาท (ขาดทุน 196 ล้านบาทในไตรมาส 2/22 และกำไร 446 ล้านบาทในไตรมาส 1/23) ที่ลดลง QoQ เป็นเพราะรายได้ธุรกิจโรงแรมที่ลดลง 16% เป็น 2.3 พันล้านบาท เพราะอัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่อคืน (RevPar) ที่ลดลง 19% QoQ เหลือ 3,356 บาท/คืนในไตรมาส 2/23 (+82%YoY) แต่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยไตรมาส 2/19 อยู่ราว 10% แม้อัตราการเข้าพักจะลดลงเหลือ 63% ในไตรมาส 2/23 เทียบ 69% ในไตรมาส 2/19 ก็ตาม ขณะที่ ADR ยังสูงอยู่ที่ราว 5,367 บาท/คืน (+26%YoY) หรือสูงกว่าไตรมาส 2/19 อยู่ 21% แต่ ADR ลดลง 12% QoQ จากยอดสูงในไตรมาส 1/23 ตามคาด เพราะอุปสงค์กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงปานกลางในช่วง low season สำหรับธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวบางแห่ง เช่น ภูเก็ต สมุย และเชียงใหม่ ส่วนอุปสงค์ในกลุ่ม MICE ก็ลดลงจากแขกตลาดบนโดยเฉพาะชาวยุโรปต่างเดินทางกลับบ้านกัน

• ธุรกิจค้าปลีกและพาณิชย์มีรายได้รวมกันที่ 917 ล้านบาท (+19%YoY +10%QoQ) จากผลงาน Asiatique the Riverfront ที่ค่อย ๆ ปรับดีขึ้น เพราะเริ่มมีลูกค้ามากขึ้นหลังธีมพาร์ค Disney เริ่มให้บริการในเดือน มี.ค. 2023 ด้านอัตราค่าเช่าในไตรมาส 2/23 กลับมาเกือบเท่าปี 2019 แล้ว หนุนจากการฟื้นตัวแข็งแกร่งของกลุ่มค้าปลีก ยกเว้นในส่วนของคอมมูนิตี้มอลล์

• อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) ลดเหลือ 15.3% จาก 26.5% ในไตรมาส 1/23 สอดคล้องกับรายได้ธุรกิจโรงแรม แต่ยังสูงกว่าไตรมาส 2/19 เพราะการเพิ่ม ADR และการคุมต้นทุนได้ดี

คาดกำไรแตะยอดสูงในปี 2023

เราคาดว่ากำไรจะโต QoQ และ YoY ในไตรมาส 3/22 หนุนจากอุปสงค์กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและ MICE ในประเทศหลังผ่านพ้นช่วง low season เราประเมินว่ากำไรปกติจะทำยอดสูงที่ 1.3 พันล้านบาทในปี 2023 หนุนจาก RevPAR เฉลี่ยที่คาดว่าจะขึ้นมายืนเหนือปี 2019 ได้ 15% อานิสงส์จากอุปสงค์อัดอั้นสะสมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เอื้อให้ ADR ยืนเหนือค่าเฉลี่ยช่วงก่อนเกิด COVID-19 ได้ 30% ทั้งนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงแรมใหม่ 3 แห่ง (647 ห้อง) ในภูเก็ตและเชียงใหม่แบบเต็มปี ขณะที่จะเปิดโรงแรมใหม่เพิ่ม 1 แห่งในกรุงเทพฯ ชื่อ 'อินน์ไซด์ บายมิเลีย แบงค็อก สุขุมวิท' ไปเมื่อต้นเดือน ก.ค. 2023 และจะเปิดให้บริการ 'อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง' อีก 1 แห่งในไตรมาส 3/23 ก่อนเข้าสู่ช่วง high season ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนห้องอีก 448 ห้อง หรือ 8% ของพอร์ตปัจจุบัน