SCB (BUY : Fair Price : Bt118.00) : โตปานกลางปันผลสูง

Published
24 October 2023
Share this article:

คงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ลดมูลค่าพื้นฐานเป็น 118 บาท SCB รายงานผลประกอบที่ 9.6 พันล้านบาท (-18.6% YoY, -6.3% QoQ) ซึ่งต่ำคาด และด้วยความไม่แน่นอนในอนาคต เราจึงปรับลดประมาณการการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2023-25 ลง 6%/8%/7% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอลงและสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่เข้มงวดขึ้น เรายังคงคาดว่ากำไรสุทธิจะโตต่อเนื่อง 7% ในปี 2023 11.5% และ 9.4% ในปี 2024-25 ตามลำดับ โดยคาดว่า ROE จะปรับเพิ่มเป็น 8.6%-9.6% ในปี 2023-25 มูลค่าหุ้นค่อนข้างน่าดึงดูดและสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอในไตรมาส 3/23 ไปแล้ว ปัจจุบันซื้อขายที่ 0.67x P/BV PBV’24E และด้วยฐานเงินทุนที่มากพอ เราจึงคาดว่าหุ้นจะให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูดระดับ 6.6%-8.0% ในปี 2023-25

การประชุมนักวิเคราะห์

• SCBX มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอและตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษไป 1.5 พันล้านบาทในไตรมาส 3/23 เพื่อเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สำรองสำหรับปัจจัยอื่นคิดเป็นสัดส่วนราว 15%-20% ของค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งหมด ซึ่งอาจระบายออกในอนาคตหากสถานการณ์ดีขึ้น

• SCBX คาดว่าสินเชื่อรายย่อยที่อยู่ภายใต้การปรับโครงสร้างราว 1.5-20 หมื่นล้านบาทอาจเสื่อมสภาพลงในอีก 12-24 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ลูกค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้เมื่อการชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำปรับเพิ่มจาก 5% เป็น 8% ของยอดคงค้างในเดือน ม.ค. 2024

• ตัวเลขแนวทางอื่น ๆ จากผู้บริหารคือ 1) ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในไตรมาส 4/23 จะลดลง QoQ หลังจากแตะยอดสูงในไตรมาส 3/23 2) NIM ที่ปรับเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/23 3) การเติบโตของสินเชื่อระดับหลักหน่วยต้นในปี 2023 4) รายได้รวมที่โตต่ำกว่า 10% 5) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) ในกรอบ 40% ต้นในปี 2023

• สำหรับ CARDX ประเด็นคุณภาพสินเชื่อหลัก ๆ มาจากพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่พอร์ตบัตรเครดิตค่อนข้างมีเสถียรภาพและยืดหยุ่นดี ส่วนคุณภาพสินเชื่อของ AutoX ยังทรงตัว

คาดถึงการเติบโตที่ชะลอตัว

เพื่อสะท้อนถึงโอกาสในการปรับโครงสร้างสินเชื่อและความไม่แน่นอนในตลาดโลก เราจึงคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญของ SCB จะค่อย ๆ ปรับลดลง โดยเราได้ปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญปี 2023-25 ขึ้น 15/35/30 bps เป็น 190/185/170 bps ตามลำดับ เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2023-25 ลง 6%/8%/9% มองว่ากำไรจะยังโตขึ้นต่อเนื่องแต่ด้วยอัตราที่ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมของเราที่ 7%/11.5%/9.4% ตามลำดับ

คงคำแนะนำ "ซื้อ" ปรับลดมูลค่าพื้นฐานลงเป็น 118 บาท

เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานลงเป็น 118 บาท (จาก 138 บาท) เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง มูลค่าพื้นฐานของเราคำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 9.2% TG 2%) อิง 0.8x PBV’24E หรือ -1.0SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี