TISCO (HOLD : Fair Price : Bt106.00) : หุ้นปันผล

Published
16 October 2023
Share this article:

เราคงคำแนะนำ "ถือ" แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานลงเป็น 106 บาท กำไรไตรมาส 3/23 ออกมาสอดคล้องกับคาดการณ์ของเราที่ 1.87 พันล้านบาท (+6% YoY, +1% QoQ) เราคงประมาณการการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2023 หลังจากเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 12 ต.ค. แต่ปรับลดคาดการณกำไรสุทธิปี 2024-25 ลดลง 2%/6% เพื่อสะท้อนการปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญสะท้อนคุณภาพสินเชื่อที่มีแนวโน้มอ่อนลง ขณะที่คาดว่ากำไรไตรมาส 4/23 จะโต 4% YoY และทรงตัว QoQ ปัจจุบันราคาหุ้นยังไม่น่าดึงดูดมากนัก จึงแนะนำ "ถือ" ด้วยคาดการณ์ถึงอัตราผลตอบแทนเงินปันผลระดับสูงที่ 7.9%/8.1%/8.3% สำหรับปี 2023-25

การประชุมนักวิเคราะห์

• แม้อุปสงค์สินเชื่อจะแข็งแกร่ง แต่ TISCO จะชะลอการขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนรถลง เพราะคุณภาพสินเชื่อที่อ่อนแอลง ซึ่งจะทำให้การเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 2023 ต่ำกว่า 10% ในปี 2023 (งวด 9 เดือนปี 2023: +5.8% YTD)

• สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) จะยังปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลัก ๆ มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ทั้งนี้ ด้วยค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอ ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในปี 2024 ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่อาจปรับเพิ่มเป็นประมาณ 50 bps เมื่อเทียบกับราว ๆ 20 bps ในงวด 9 เดือนปี 2023

• TISCO ยืนยันว่าอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ในไตรมาส 4/23 จะยังอยู่ในระดับสูง แต่อาจหดตัวลงในปี 2024 เพราะต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ย

• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) จะยังอยู่ในระดับสูง เพราะค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่สูงขึ้น สืบเนื่องจากการขยายสาขาสมหวัง ทั้งนี้ TISCO มีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 200 แห่งต่อปีเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ผลประกอบการไตรมาส 3/23 สอดคล้องกับคาดการณ์

• กำไรสุทธิไตรมาส 3/23 ออกมาอยู่ที่ 1.87 พันล้านบาท (+6% YoY, +1% QoQ) แม้รายได้ค่าธรรมเนียมจะลดลงและมีการตั้งสำรองหนี้ฯ มากขึ้น แต่ยังโตได้ YoY เพราะรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่ยืดหยุ่นดี หนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อและ NIM ที่สูงขึ้น

• NPL ratio ทรงตัว QoQ ที่ 2.25% อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ลดลงเป็น 205.8% แต่ยังพอที่จะรับมือกับ NPLsคาดการเติบโตของกำไรจะชะลอตัวในปี 2024-25

• หลังจากเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ เราได้ปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญปี 2024-25 เป็น 50-75 bps (จาก 25 bps) เพื่อสะท้อนถึงตัวเลขแนวทางของผู้บริหารและคุณภาพสินเชื่อที่ลดลง นอกจากนี้ แม้ NIM จะออกมาดีกว่าคาด โดยเราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2024/25 ลง 2%/6% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่สูงขึ้น แต่

ยังคงประมาณการปี 2023 ตามเดิม

• ด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิจะโตเฉลี่ยต่อปีที่ 2.4% YoY ในช่วงปี 2023-25 ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/23 จะโต 4% YoY และทรงตัว QoQ

คงคำแนะนำ "ถือ" ลดมูลค่าพื้นฐานเป็น 106 บาท

เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานเป็น 106 บาท (จาก 109 บาท) เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง มูลค่าพื้นฐานของเราคำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 17%, TG2%) อิง 1.9x PBV’24E