TIDLOR (BUY : Fair Price : Bt30.00) : ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/23
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 30.00 บาท ผลประกอบการไตรมาส 3/23 ของ TIDLOR ออกมาแข็งแกร่งในหลายแง่มุม รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่ปรับเพิ่มขึ้นและเบี้ยประกันที่โตต่อเนื่องคือปัจจัยขับเคลื่อนกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งระดับ 1.0 พันล้านบาท (+11.7% YoY, +8.6% QoQ) สืบเนื่องจากคุณภาพสินเชื่อที่ยืดหยุ่นดี ด้านอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ทรงตัวที่ 1.5% อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ยังสูงอยู่ที่ 264.4% เราคาดว่ากำไรจะโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/23 พร้อมกับคุณภาพสินเชื่อที่ยืดหยุ่นดีในครึ่งหลังปี 2023 ซึ่งจะเอื้อให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในปี 2024-25 ลงได้ ขณะที่คาดว่ากำไรจะโต 6.6% YoY สำหรับทั้งปี 2023 และโตอย่างมั่นคงในระดับ 21.7%/21.1% ในช่วงปี 2024-25 หนุนจาก NII และเบี้ยประกันที่สูงขึ้น บวกกับค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลง
ผลประกอบการแข็งแกร่งในไตรมาส 3/23
• กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.0 พันล้านบาท (+11.7% YoY, +8.6% QoQ) สูงกว่าคาด 5% แม้การตั้งสำรองหนี้ฯ จะสูงขึ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุล แต่กำไรยังโตได้ YoY และ QoQ จาก NII ที่สูงขึ้นและผลงานที่แข็งแกร่งในหน่วยธุรกิจนายหน้าขายประกัน ทั้งในส่วนของประกันภัยและประกันชีวิต
• สินเชื่อโตแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 5.3% QoQ ทำให้โต 13.1% YTD หนุนจากสินเชื่อที่มีหลักประกันเป็นยานพาหนะ
• อัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) เพิ่มเป็น 15.7% เพราะอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่สูงขึ้นถูกหักลบจากต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
• คุณภาพสินเชื่อค่อนข้างทรงตัว NPL ratio ทรงตัวที่ 1.5% ขณะที่อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ยังยืนระดับสูงที่ 264.4% พอรับมือกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น
• TIDLOR กลับมาขยายเครือข่ายสาขาของตนในไตรมาส 3/23 หลังจากพักไปในครึ่งปีแรก โดย ณ ไตรมาส 3/23 บริษัทมีเครือข่าย 1,662 สาขา เทียบ 1,628 ในไตรมาส 2/23
• อัตราส่วนหนี้สินต่อเงินทุน (D/E ratio) ยังทรงตัวที่ 2.4x
แนวโน้มเติบโตอย่างมั่นคงมากขึ้นในปี 2024
• กำไรสุทธิงวด 9 เดือนของ TIDLOR อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท (+2.4% YoY) คิดเป็น 74% ต่อประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีของเราที่ 3.9 พันล้านบาท (+6.6% YoY) เราคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 4/23 จะโตราว 21% YoY ค่อนข้างทรงตัว QoQ
• เราคาดว่ากำไรปี 2024-25 จะโตอย่างมั่นคงมากขึ้นที่ 21.7%/21.1% ตามลำดับ หนุนจาก NII ที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลง
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 30.00 บาท
มูลค่าพื้นฐานของเราคำนวณด้วยวิธี GGM อิง 2.5x PBV’24E และ 17.8x PE’24E