Pi STOCK UPDATE : NER (BUY : FAIR PRICE Bt5.75)

Published
22 August 2023
Share this article:

" 2Q23 กำไรดี แต่แนวโน้ม 2H23 ไม่ดีนัก "

NER รายงานกำไรสุทธิ 2Q23 ที่ 457 ลบ. (+20%YoY,+45%QoQ) เติบโตขึ้นตามคาดจากผลดีของปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาชดเชยกับราคาขายที่ลดลงจากปีก่อนหลังราคายางมีแนวโน้มอ่อนแอตั้งแต่ต้นปี (แต่ราคาดีขึ้นจาก 1Q23 เพราะได้รับผลดีจากราคาที่เพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค.-ก.พ.) แนวโน้ม 2H23 ในแง่ปริมาณขายคาดว่าจะทรงตัวจาก 1H23 เพราะมีความกังวลถึงปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนปี 24 ต้องติดตามปัญหาภัยแล้งว่าจะรุนแรงเพียงใด ทำให้ทาง NER ยังคงชะลอแผนการสร้างโรงงานใหม่ออกไปอีกครั้ง ทั้งนี้เราปรับกำไรสุทธิลงเล็กน้อยหลังราคายางอ่อนตัวลง แต่เรามองว่าราคาหุ้นปัจจุบันซึมซับเรื่องราคายางไปมากแล้วเราจึงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม เพราะยังมีเงินปันผลที่ได้รับเฉลี่ยปีละกว่า 5-6% อยู่

2Q23 รายงานกำไรสุทธิ 457 ลบ. (+20%YoY,+45%QoQ)

• 2Q23 มีกำไรสุทธิ 457 ล้านบาท (+20%YoY,+45%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ 41 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 11 ล้านบาท กำไรปกติจะอยู่ที่ 509 ล้านบาท (+14%YoY,+68%QoQ)

• รายได้อยู่ที่ 6,558 ล้านบาท (+24%YoY,+5%QoQ) มีปริมาณขาย 129,478 ตัน (+46%YoY,+2%QoQ) แต่ราคาขายเฉลี่ย 50.6 บาท/กก. (-15%YoY,+3%QoQ ) ราคาลดลงแรงเมื่อเทียบกับปีก่อนตามสภาพตลาด แต่ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 1Q23 เพราะได้รับผลดีจากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน ม.ค. 23

• กำไรขั้นต้นที่ 12.9% เพิ่มจาก 11.7% ใน 2Q22 และ 9.7% ใน 1Q23ได้รับผลดีจากต้นทุนที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 211 ลบ. (+112%YoY,+18%QoQ) เพิ่มตามปริมาณการขายที่มากขึ้น

• ดอกเบี้ยจ่าย 105 ลบ. (+11%YoY,-7%QoQ) เพิ่มจากปีก่อนเพราะมีการออกหุ้นกู้เพิ่มในเดือน ก.ย. 22 ส่วนที่ลดลงจาก 1Q23 เพราะราคายางลดลงทำให้ใช้เงินหมุนเวียนลดลง

ภาพรวมยางในแง่ความต้องการมีความเสี่ยงมากขึ้น

• ภาพรวมความต้องการใช้ยางพาราเริ่มมีสิ่งที่ต้องกังวลมากขึ้นคือปัญหาเศรษฐกิจทั้งจากจีนและทั่วโลก โดยเฉพาะหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาไม่ดี ซึ่ง NER จะรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มจากรัฐบาลจีนในเดือน ต.ค. นี้อีกครั้ง นอกจากนี้สิ่งที่ต้องติดตามเพิ่มคือผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งจากเหตุการณ์ เอล นีโญ่ ที่คาดว่าจะเริ่มเห็นในช่วงปลายปีนี้

**ปรับกำไรทั้งปีลงเล็กน้อย เหลือ 1,597 ล้านบาท (-9%YoY) **

• ภาพรวมปริมาณขายในปี 23 คาดว่าจะไม่ถึงที่เราเคยประเมินไว้ที่ระดับ 501,00 ตัน หลังจากทางผู้บริหารให้ข้อมูลว่าด้วยราคาที่ไม่ดีทำให้การขายในปีนี้อาจจะอยู่ในระดับเพียง 480,000-490,000 ตัน เราจึงปรับเป้าการขายลงมาให้สอดคล้องกับที่ผู้บริหารประเมิน และทำให้เราประเมินกำไรสุทธิได้ใหม่ที่ 1,597 ล้านบาท (-9%YoY)

• คำแนะนำการลงทุน ระยะสั้นผลประกอบการมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจจีน แต่ด้วยเงินปันผลที่ทั้งปียังคงมีผลตอบแทนกว่า 6-7% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม แต่ปรับมูลค่าเหมาะสมใหม่เหลือ 5.75 บาท (6.3XPER’24E)