Pi STOCK UPDATE : STEC (BUY : FAIR PRICE Bt14.10)
" 1Q23 รายได้ยังไม่มา แต่กำไรขั้นต้นดีขึ้นแล้ว "
เราแนะนำเพียง “ซื้อเก็งกำไร” โดยมองว่าจุดเด่นที่มีคือ Backlog ที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 1 แสนล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นที่ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังหมดโครงการรัฐสภา แต่ด้วยรายได้ใน 1Q23 ลดลง 15%YoY,24%QoQ ทำให้เราประมาณการรายได้ทั้งปีลงจากเดิม 8% เหลือเพียง 30,681 ลบ. ทรงตัวจากปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิใหม่อยู่ที่ 916 ลบ. (+7%YoY) และประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 14.1 บาท (23.5XPER’23E)
**1Q23 กำไร 171 ลบ. (-26%YoY,-46%QoQ) **
• STEC มีกำไรสุทธิงวด 1Q23 ที่ 171 ลบ. (-26%YoY,-46%QoQ) เป็นผลจากรายได้ที่ชะลอตัวลง
• รายได้อยู่ที่ 6,438 ลบ. (-16%YoY,-24%QoQ) ต่ำสุดนับตั้งแต่ 3Q21
• กำไรขั้นต้นรวมที่ 5.9% ทรงตัวจาก 4Q22 และดีขึ้นจาก 5.7% ใน 4Q21 ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 191 ลบ. (+5%YoY,-3%QoQ) รวมแล้วมีกำไรจากการดำเนินงาน 186 ลบ. (-25%YoY,-38%QoQ)
• ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมรับรู้มา 1 ลบ. ลดลงจาก 2 ลบ. ใน 4Q22 แต่พลิกจากที่รับรู้กำไร 13 ลบ. ใน 1Q22 คาดว่าเกิดจากส่วนแบ่งขาดทุนจากอู่ตะเภาที่เพิ่มขึ้น
ปี 2023 Backlog ยังสูง ทำให้งานใหม่ไม่รีบ
• Backlog ของ STEC ณ สิ้น 1Q23 อยู่ที่ 106,900 ลบ. แบ่งเป็นงานที่เซ็นสัญญาแล้วประมาณ 79,800 ลบ. และงานที่รอเซ็นสัญญา (โครงการสนามบินอู่ตะเภาเฟส 1) อีก 27,000 ลบ. ซึ่งจะเพียงพอสำหรับรายได้ของ STEC ปีละกว่า 30,000 ลบ. ได้อีก 2-3 ปี โดยโครงการสำคัญคือรถไฟฟ้าสายสีม่วงตอนใต้สัญญา 1-2 และรถไฟทางคู่เส้นทางเด่นชัย-เชียงของ มูลค่ารวมกันประมาณ 30,000 ลบ.
ปรับกำไรปี 23 ลง 8% เหลือ 916 ลบ. (+7%YoY)
• แม้ว่า Backlog ของ STEC จะยังมีอยู่มาก แต่ด้วยความเสี่ยงจากการรับรู้รายได้ที่อาจจะช้ากว่าที่เคยประเมินไว้หลังจากในช่วง 1Q23 มีรายได้เพียง 6,400 ลบ. ทำให้เราปรับประมาณการรายได้ทั้งปีลงจากเดิม 8% มาอยู่ที่ 30,681 ลบ. ทรงตัวจากปี 22 และทำให้กำไรสุทธิลดลงจากเดิม 8% เช่นกันมาอยู่ที่ 916 ลบ. (+7%YoY) โดยแนวโน้มกำไรสุทธิในช่วง 2Q23 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1Q23 ได้เพราะมีรายได้เงินปันผลเข้ามา
• เราแนะนำเพียง “ซื้อเก็งกำไร” เท่านั้นและประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 14.1 บาท (23.5XPER’23E) จากเดิม 15.3 บาท เพราะผลประกอบการในช่วง 1Q23 ที่ออกมาไม่ดีนัก โดยเฉพาะในแง่รายได้ แต่ระยะยาวยังมีโอกาสที่รายได้จะกลับมาโตเพราะ Backlog ยังอยู่ในระดับสูง